money6
ล่องไพร ภาค 2 ตอนที่ 30 ยิงปลา
ข้าพเจ้ารีบปลดสายสะพายปืนออกจากไหล่โดยเร็ว แต่ก่อนที่จะทันทำอะไรลงไปก็รู้สึกว่าร่าง ๆ หนึ่งผ่านหน้าไปโดยเร็ว เงยหน้าขึ้นจึงแลเห็นใลสงไปอยู่กลางสะพานแล้ว เขาพยายามฉุดตาเกิ้นขึ้นมาอยู่บนสะพานเชือกอย่าง เก่าด้วยความสะดวกง่ายดายเหมือนจะไม่ได้ออกแรงอะไร แล้วก็จูงมือแกไต่ต่อมาจนถึงชานผาที่ข้าพเจ้ายืนคอยอยู่ พอเท้าแรกเหยียบถึงพื้นดินและหินแข็งเท่านั้น การควบคุมสติและกิริยาใด ๆ ของตาเกิ้นก็อันตรธานไปสิ้น ทิ้งตัวลงหอบหืดจนลิ้นห้อยหันกลับไปดูสะพานนั้นด้วยตาลอยพลางพึมพำว่า
“ข้ามมาได้ไม่ยักตาย ไม่เป็นไรแต่ตาเกิ้นจะกลับไปได้อย่างไร นาย?”
ข้าพเจ้า “อย่าเพิ่งไปคิดถึงมันตาเกิ้น จนกว่าเราจะย้อนกลับมาถึงที่นี่อีกครั้ง”
ตาเกิ้น “ไม่คิดอย่างไรได้ นาย, ยายของตาเกิ้นอยู่ข้างหลังอีกตั้ง 2 คน”
ตาเสือ ยิงปลา
อุบัติเหตุซึ่งจวน ๆ จะทำให้ตาเกิ้นเอาชีวิตไปทิ้งไว้เสียที่นั่นเป็นการเตือนให้พวกลูกหาบและคนอื่น ๆ เพิ่มความระมัดระวังยิ่งขึ้น ฉะนั้นการข้ามต่อมาแต่ละคนจึงเต็มไปด้วยความล่าช้ากว่าจะถึง ดร.สมิท ซึ่งสมัครเป็นคนรั้งท้ายเพื่อให้เป็นกำลังใจแก่คนพวกนั้น ตะวันก็ลับเหลี่ยมเขาพอดีทิ้งแต่แสงสว่างสลัว ๆ และขมุกขมัวไว้เบื้องหลังพอเห็นราง ๆ เท่านั้น ถ้าในเวลากลางวันการข้ามช่องเขาเหนือลำธารมฤตยูสายนี้จะมีความน่าหวาดเสียวสยองอยู่แล้วเพียงไรในเวลาที่โพล้เพล้ ใกล้พลบค่ำลงไปก็ดูยิ่งทวีความน่ากลัวเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า เสียงลมที่พัดอยู่รอบตัวเรากระหน่ำแรงขึ้นเป็นลำดับ หมอกเล่าก็เริ่มลงหนาทึบยิ่งขึ้นทุกทีจากลำธารเบื้องล่างความดังของกระแสน้ำที่กระแทกแก่งต่าง ๆ สะท้อนต้องกลับไปกลับมาไม่ขาดระยะ ไมรา สมิท ซึ่งยืนอยู่ ข้าง ๆ ข้าพเจ้าตัวสั่นน้อย ๆ ขณะที่เอ่ยขึ้นแข่งกับเสียงน้ำและเสียงลมว่า
“ไลสงว่าน่ากลัวคืนนี้จะต้องค้างที่นี่เองหมอกลงจัดอย่างนี้ทางขึ้นไปหมู่บ้านเซียมิลื่นเต็มที่”
ข้าพเจ้า “บอกเขาว่าให้คุณหมอข้ามมาถึงฟากนี้เสียก่อนดีกว่าจึงค่อยปรึกษากันว่าควรจะค้างที่ไหน?”
ไมรา “โอ! มายก๊อต ฉันลืมทอมเขาไปทั้งคนคุณสาก ฮะโหลทอมเธอข้ามมาถึงไหน?”
เปล่า, ทอมของไมรายังไม่ได้ข้ามมาความจริงในเวลานั้น คร.สมิทกำลังตะโกนขอแสงไฟฉายจากใครคนใดคนหนึ่งซึ่งสะพายย่ามหลังของเขาล่วงหน้ามาก่อน เมื่อตาเกิ้นคว้าไฟฉายกราดไป เราจึงเห็นชายร่างใหญ่ค่อย ๆ ก้าวลงมาบนสะพานอย่างนุ่มง่ามและเต็มไปด้วยความระมัดระวังท่ามกลางกลุ่มหมอกและเสียงสะท้านหวั่นไหวของเสียงลมที่ปะทะหน้าผาและเสียงน้ำที่กระแทกกระทั้นอยู่ข้างล่างลึกละลิ่วลงไป ตลอดเวลาเหล่านั้น ไมรา สมิทจับแขนข้าพเจ้าบีบไว้แน่น พิมพ์ด้วยเสียงที่เคร่งเครียดเหมือนคนจะขาดใจว่า ยิงปลา
“ฉันพยายามเหลือเกินที่จะให้เขาข้ามมาก่อนแต่กลางวันแต่ทอมก็อย่างหัวหน้าคณะเอ็กสเปดิชั่นทั่วไปไว้ตัวและหัวรั้นโดยไม่จำเป็นเพราะเกรงพวกลูกหาบและคนแก่กับลูกสาวจะเห็นว่าเขาไม่กล้าพอฉะนั้นจึงขอข้ามเป็นคนสุดท้าย โอย, มืดยังกะอะไรดี บาบูนฉายไฟอีกทีต่ำ ๆ หน่อยอย่าให้เข้าตาคุณหมอเขาได้”
จากแสงไฟฉายนั้นข้าพเจ้าเห็นกิริยาของ ดร.สมิทแล้วก็อดเฉลียวใจไม่ได้ว่าสิ่งหนึ่งสิ่งใดกำลังผิดพลาดไปแน่ เพราะเห็นเขาเหลียวหน้าเหลียวหลังไม่หยุดหย่อน จนกระทั่งถึงตอนกลางสะพานและแสงไฟฉายจากตาเกิ้นผ่านไปถึงชานผาข้างหลังเห็นประกายตาสัตว์คู่หนึ่งสว่างโพลงและเขียวปัดอยู่ ชั้นแรกก็เฉย ๆ ด้วยคิดว่าเป็นตาอีเห็นหรือชะมดหรือสัตว์เล็กในตระกูลเดียวกัน ครั้นแล้วตาเกิ้นซึ่งคงจะพิจารณาอยู่นานจนแน่ใจก็ปราดเข้ามากระซิบแข่งเสียงลมด้วยความร้อนรนกระวนกระวายว่า ยิงปลา
“นั่นมันตาเสือแมลงภู่นี่นาย เห็นไหม? ใหญ่หรือเกือบเท่าม้าทำท่าว่าจะตามนายห้างลงมาบนสะพานด้วย โอ๊ะ..โอ้ ช่วยเร็วเถอะก่อนที่มันจะไม่ทันการ”
แกพูดเกือบไม่ทันขาดคำร่างอันดำทะมึนของเสือตัวนั้นก็ย่างจากแง่หินและกลุ่มหมอกออกมาสู่แสงไฟฉายอย่างเห็นได้ถนัดถนี่แล้ว ก้าวลงสะพานตาม ดร.สมิทมาอย่างไม่รู้ไม่ชี้ต่อแสงไฟฉายหรือเสียงตะโกนไล่ของพวกเราบนหน้าผาฝั่งนี้ทั้งสิ้น ข้าพเจ้าเห็นเหงื่อเม็ดโป้ง ๆ ไหลลงมาโชมหน้า ดร.สมิท เมื่อสำนึกว่าสะพานเชือกได้รับน้ำหนักเพิ่มขึ้นและแน่ใจเหลือเกินว่าเขารู้โดยไม่ต้องหันหน้าไปว่าอะไรกำลังติดตามหลังเขามา เล็บของไมราดูเหมือนจะจิกลงไปในกล้ามเนื้อของ ข้าพเจ้าขณะที่ร้องเสียงแหลมว่า
“ยิงซิ คุณสาก! ช้าอยู่ทำไม? หรือว่าจะให้ทอมของฉันตายเสียก่อนจึงจะลงมือ”
“ใจเย็น ๆ ไว้ มิสซิสสมิท” ข้าพเจ้าบอกเกือบเป็นเสียงกระซิบ “เวลานี้ฉันกำลังวิตกว่าสะพานนั้นจะทานน้ำหนักของคุณหมอกับเจ้าเสือแมลงภู่ไว้ได้นานสักแค่ไหนมากกว่าจะคิดถึงภัยที่คุณหมอจะได้รับจากเสือ”
ไมรา “ใจเย็น ๆ ไว้! เย็นอย่างไร ไหว? ในเมื่อผู้หญิงเห็นความตายกำลังถึงผัวรักอยู่รอมร่อ โอย, ฉันทนดูอยู่ไม่ได้!” ยิงปลา
“ตุ๊ย! เชื่อฉันดีกว่า แหม่มไมรา ลักษณะของเสือตัวนั้นไม่ใช่เสือกินคนเพราะฉะนั้นจนกว่ามันจะถูกรบกวนให้รำคาญหรือเป็นอันตรายคุณหมอก็ปลอดภัย”
“ปลอดภัย! คุณสากดูนัยน์ตาของมันที่จ้องทอมสิ แล้วก็ท่าเดินที่เต็มไปด้วยความมาดหมายไว้ใจได้อย่างไรว่าพริบตาต่อไปมันจะไม่เผ่นเข้ามาตะครุบทอม? ไมก็อด! ฉันทนดูไม่ไหว”
โดยไม่ยอมฟังการทัดทานจากข้าพเจ้าหรือใคร ๆ อีกต่อไป ไมรา สมิทชักปืนสั้นจากซองที่เอวของหล่อนออก ปราดเข้าไปคว้าไฟฉายมาจากตาเกิ้นได้ก็ส่องตรงไปที่เสือตัวนั้นทำมุม 45 กับลำตัวของมันและในระยะ 20 เมตรเช่นนั้นเองหล่อนก็ยิง...
อ่านเพิ่มเติมได้ที https://moneyslotxo.cc/