October 9, 2020

money6

ล่องไพร ภาค 2 ตอนที่ 8 ยิงปลา

“เวลาแหม่มเขาปลุกใครน่ะ ใช้ตีนเขี่ยอย่างนี้ทุกคนไปหรือนาย?” ข้าพเจ้าได้ฟังก็หัวเราะ

“อ๋อ, ตามประเพณีของเขาไม่ถือกันนี่ตาเกิ้น ถ้ารักน้อยหน่อยก็ใช้ตีนเขี่ย ถ้ารักมากไปก็ใช้เตะเลยทีเดียว”

“นายช่วยบอกนายห้างกะแหม่มไมราดีกว่า” ตาเกิ้นคราง “ว่าขออย่าได้รักตาเกิ้นเลย”

ร.อ.เรือง ซึ่งยืนเงียบ ๆ อยู่ในความมืดสลัวของกองไฟ ก้มลงมองดูพรายน้ำนาฬิกาข้อมือพลางบอกว่า

“เวลานี้ 24.30 น. พอดี ของใครไม่ตรงกันตั้งเสียเดี๋ยวนี้ ก่อนออกเดินทางถ้าเราออกตีหนึ่งและเดินตามสบายก็คงจะถึงที่หมายก่อนเวลาเพื่อทำการทันรุ่งสว่าง ขอให้ทุกคนเดินทางอย่างเงียบที่สุดจะทำได้เรายังไม่รู้จักกันว่าคนพวกนั้นจะวางยามตามเวรไว้หรือไม่? ยิงปลา

ไมรา “ข้อนั้นไม่ต้องเป็นห่วงในเวลากลางคืนพวกนาดาได้ยินเสียงอะไร ถือเป็นเสียงผีป่าผีพรายทั้งนั้น”

เรายืนสูบบุหรี่รอเวลากันอยู่อย่างเงียบ ๆ ในความมืดของราตรีอันสงัดและเยือกเย็นจนกระทั่งเข็มนาฬิกาพรายน้ำบอกเวลา 09.00 ตรง จึงเริ่มออกเดินทาง แสงสว่างอย่างเดียวซึ่งเราถือเป็นเครื่องนำทาง ได้แก่แสงสว่างวอมแวมจากไฟบุหรี่ของพ่อเฒ่าหัวหน้าบ้านกับตาเกิ้นและแม้ว่าจะพยายามเดินอย่างเบาเพียงใดเมื่ออยู่ในที่มืดและตามภูมิประเทศที่เป็น ภูเขาเช่นนั้นก็อดสะดุดโน่นโดนนี่ไม่ได้ จากเข็มทิศพรายน้ำประจำตัวข้าพเจ้ารู้สึกว่าเราวกลงทางทิศตะวันตกเรื่อยไปประมาณ 1 ชั่วโมงและกิโลเมตรต่อมาพ่อเฒ่าก็นำเราวกขวาขึ้นเหนือผ่านป่าไผ่โปร่ง ๆ และข้ามห้วยแห่งหนึ่งซึ่งแห้งขอด ตลอดทางเหล่านี้ ไมรา สมิทพิสูจน์ให้เห็นว่าชีวิตของเจ้าหน้าที่ผู้ฝึกกองโจรอยู่ในมณีปุระมาเป็นเวลา 2 ปี ได้ทำให้หล่อนเป็นผู้ชายคนหนึ่งไป ไม่มีบ่น ไม่มีเดินล้าหลัง จนกระทั่งอีกประมาณ 5 กิโลเมตรต่อมาหล่อนจึงกระซิบบอก ร.อ.เรืองซึ่งเดินหน้าหล่อนและหลังข้าพเจ้าว่า

ไมรา “ถ้าความจำของคนแก่ถูกต้องก็ควรจะมีทุ่งเล็ก ๆ และหนองน้ำอยู่ทางขวามือตรงนี้ ฉันคิดว่าให้พวกลูกหาบคอยเราอยู่ที่นี่ดีกว่า ระยะทางต่อไปอีก 2 กิโลก็ถึงที่พักพวกนั้นแล้ว”

ความจำของพ่อเฒ่าหัวหน้าบ้านถูกต้องมีทุ่งโล่งเล็ก ๆ และ หนองน้ำอยู่ปากชายป่าทางขวามือออกไป เราสั่งให้พวกลูกหาบปลงกะทอพักรอคอยอยู่ที่นั่นและกำชับว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามเขาจะต้องไม่แตกตื่นไปไหน ยุทธภูมิเป็นที่หมายของเราอยู่ห่างออกไปถึง 2 กิโลเมตร เพราะฉะนั้นเว้นไว้แต่เหตุการณ์จะโอละพ่อ เราเชื่อเหลือเกินว่าพวกเขาทุกคนจะปลอดภัย ยิงปลา

ถัดจากทุ่งโล่งทุ่งนี้ไปทางด่านพาเราขึ้นสู่เนินเขาซึ่งปกคลุมไปด้วยละเมาะเล็ก ๆ และหนาแน่นขึ้นทุกที ประมาณอีกกิโลเมตรเศษ ๆ ต่อมา พ่อเฒ่าและตาเกิ้นก็หยุดที่ด่านแพร่งหันมากระซิบบอกข้าพเจ้าว่า

ตาเกิ้น “เราแยกกันตรงนี้แหละนาย นายทหารเรือง นายห้างกะแหม่มไปทางขวา พ่อเฒ่าเผโบมาตาเกิ้นกะนายไปทางซ้าย”

ไมรา “โอ, นายบาบูนเข้าใจผิด ฉันไปกะคุณสากให้คนแก่ไปกะหมอและคุณรวง ถูกไหม ทอม?”

สมิท “โอเค, ไมรา ความปรารถนาของเธอถูกต้องเสมอสำหรับฉัน”

เรือง“อย่าลืมว่าเห็นที่หมายแน่ชัดแล้วจึงค่อยทำการถ้าสงสัยอย่าเพิ่งทำอะไรลงไปคอยฟังสัญญาณจากสายเรา”

ไมรา “คุณรวงจะเอาอะไรเป็นสัญญาณ?” เรือง “เสียงปืนนัดแรกจากฉันหรือลูกระเบิดมือจากคุณหมอ” ไมรา “All right! all right! ตกลงนายทหารรวง” ยิงปลา

อาจจะเป็นเพราะความไม่เคยชินก็ได้ข้าพเจ้าไม่พอใจเลยที่จะเห็น ไมรา สมิทมาอยู่ในสายของเราข้าพเจ้าไม่ใช่คนเกลียดผู้หญิงแต่ก็ไม่ชอบที่จะรู้สึกว่าภาระในการคุ้มครองป้องกันขณะที่เหตุการณ์คับขันใด ๆ เกิดขึ้นแก่หล่อนอยู่ในหน้าที่ของข้าพเจ้า เราเดินเงียบ ๆ เหมือนเงาไม่พูดไม่จาอะไรกันเลียบไปตามสันเขาซึ่งขรุขระและเยือกเย็นเพราะกลุ่ม หมอกปกคลุมอยู่ราวครึ่งชั่วโมงเศษก็ถึงชะง่อนหินแห่งหนึ่ง ซึ่งตาเกิ้นยกมือทำสัญญาณให้หยุดหันมากระซิบเบา ๆ ว่า

“ตรงนี้แหละนาย ที่นายทหารเรืองสั่งไว้”

ไมรา สมิทเดินแซงข้าพเจ้าก้าวออกไปที่ชะง่อนหินนั้น ยกมือป้องหน้าพยายามจะมองผ่านกลุ่มหมอกบาง ๆ ซึ่งลอยเหมือนควันปกคลุมอยู่ เบื้องบนลงไปยังก้นหุบเขาข้างล่างสักครู่ก็ถอยกลับมาข้างหลังจนกระทั่งปะทะกับอกข้าพเจ้า หล่อนกระซิบเบา ๆ โดยไม่ทันหันหน้ามาเลยว่า

“เห็นหรือเปล่า คุณสาก? นาคาพวกนี้ตื่นเช้าก่อนนาคาเผ่าอื่น ๆ ที่ฉันเคยเห็นมา”

ข้าพเจ้าพยายามเพ่งสายตาลงไปตามมือของไมราชี้ ทีแรกไม่แลเห็นอะไรเลยนอกจากม่านหมอกที่ลอยผ่านไปมาแต่พอถึงช่องว่างระหว่างกลุ่มหมอกก็แลเห็นแสงไฟลุกวอมแวมออยู่ในกองสองสามแห่ง ถึงกระนั้นก็ยังไม่สามารถจะแลเห็นความเคลื่อนไหวของสิ่งใดได้ ในขณะนั้นเพิ่งจะ 5.00 นาฬิกากว่า ถ้าลมไม่เปลี่ยนทิศและกลุ่มหมอกเหล่านั้น ยังไม่ผ่านไป ถึงจะได้เวลา 6.00 น.ตามที่กำหนดกันไว้ในหุบเขานั้นก็คงจะไม่สว่างแน่ ในกรณีเช่นนั้นวิธีเดียวที่เราจะทำได้ก็คือรอคอย สัญญาณจากสาย ดร.สมิทและ ร.อ.เรือง ซึ่งคงกำลังอยู่ในที่ใดที่หนึ่งบนสันเขาฟากตรงกันข้าม

ท่ามกลางละอองหมอกอันเป็นชั้นและความมืดที่ปกคลุมอยู่รอบกายในขณะนั้น เสียงสุนัขหอนขึ้นสองสามครั้งติด ๆ กัน ไมรา สมิท กระเถิบเข้ามาใกล้ข้าพเจ้าอีกมืออันเย็นเฉียบของหล่อนเอื้อมมาจับมือข้าพเจ้าไว้

“ได้ยินไหม คุณสาก? หมาจากเผโบมาเหล่านั้นเหมือนจะรู้ว่าจะมีคนจะมาช่วยมัน ฮือ? ทำไมคุณสากตัวสั่น? เป็นอะไรไป? กลัว?” ยิงปลา

จริง, ขณะนั้นข้าพเจ้ารู้สึกใจคอสั่น แม้กระนั้นก็ไม่ใช่เพราะกลัวพวกนาคาเผ่าจิรีหรือเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น หากความตื่นเต้นที่ปรากฏอยู่ภายในโดยบอกไม่ถูกว่าเป็นเพราะอะไรแต่ทั้งหมดที่บอกแหม่มไมราออกไปได้ก็เพียงว่า

“ถูกของแหม่ม ฉันกลัวแต่ไม่ใช่เพราะเห็นว่าตัวตกอยู่ในอันตรายหรือภัยที่กำลังจะมา ฉันกลัวในการที่จะฆ่าคนซึ่งไม่มีโอกาสจะต่อสู้ฉันได้เลย”

อ่านเพิ่มเติมได้ที https://moneyslotxo.cc/