money3
(ยิงปลา)การเดินทางของพระเอเซ็น 1
ผมจึงไม่ปิดบังอีกต่อไป ผมบอกเรื่องที่เคยมีผู้ชายมาเที่ยวถามนิสัยความประพฤติของผมที่โกเบ เขาไม่เกี่ยวข้องกับทนายซึ่งสืบตัวหาผม และผมยังบอกด้วยว่าดูท่าทางเป็นคนบ้านนอก พี่ตาโตและถามกลับว่าเกิดขึ้นประมาณเมื่อไหร่ ผมนั่งนับนิ้ว นึกวันที่คร่าว ๆ จากนั้นพี่ก็ใช้นิ้วนับวันและค่อย ๆ หายใจหอบแรงขึ้น “ต้องใช่แน่เลย ตอนนั้นพอดี...”
พี่ขยับตัวเข้าใกล้ผมขึ้นเล็กน้อย “ทาซึยะ วันก่อนเธอถามว่าคนในหมู่บ้านนี้ พี่ก็เลยเผลอตอบไปอีกอย่าง ไม่ใช่คนในหมู่บ้านนี้หรอก แต่เป็นคนที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหมู่บ้านนี้ เขาออกเดินทางไปช่วงเวลานั้นพอดี”
“ใครครับพี่ เขาเป็นใครครับ” … “พระเอเซ็น วัดมาโร” ผมอึ้งมองหน้าพี่สาว รู้สึกเหมือนมีลิ่มใหญ่ตอกตรงกระหม่อม
“พี่ครับ จริงหรือครับ” เสียงผมสั่นโดยไม่รู้ตัว “จริงสิ ไม่ผิดแน่ เมื่อครู่พระเอเซ็นหันไปพูด(ยิงปลา)แปลก ๆ กับเธอใช่ไหม ตอนนั้นพี่อดโมโหไม่ได้ เลยมัวแต่เถียง แต่แล้วก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า พระเอเซ็นออกจากวัดเดินทางไปที่ไหนสักแห่งเมื่อห้าหกวันต้นเดือนก่อน...” ผมขนลุกซู่ขึ้นทันใด รู้สึกเหมือนฟันตัวเองส่งเสียงกึกกักด้วยความตื่นตระหนก
“พี่ครับ พี่ พระเอเซ็นเป็นใครครับ เกี่ยวข้องอะไรกับบ้านนี้หรือ” … “ไม่เกี่ยวข้องเด็ดขาด ท่านเพิ่งเข้าไปอยู่ในวัดมาโรตอนหลังสงครามสิ้นสุดได้ไม่นาน ก่อนหน้านั้นเป็นผู้เผยแผ่ศาสนาที่วัดในแมนจู ดูท่าจะเป็นมิตรเก่าแก่ของเจ้าอาวาสโจเอวัดมาโร พอเจ้าอาวาธโจเออาพาธเลยต้องทำหน้าที่แทน พี่เองก็ไม่รู้ว่าท่านเป็นคนที่ไหนอย่างไร” ถ้าคนที่ไปปรากฏตัวในโกเบเป็นพระเอเซ็นจริง ท่านไปทำไม เหตุใดจึงสนใจเรื่องของผมขนาดนั้น...
“พี่ครับ พระเอเซ็นรู้เรื่องคดีนี้หรือเปล่าครับ ฟังจากคำพูดน่ากลัวที่ท่านพูดในวันนี้...”
“ต้องใช่แน่เลย” พี่ตอบแข็งขัน “ไม่อย่างนั้นแล้ว ท่านคงไม่หลุดคำน่ากลัวนั่นออกมาแน่ ตอนหลังพระเอเซ็นยังบอกว่าท่านคุมอารมณ์ไม่อยู่เพราะกลัว(ยิงปลา)มากเหลือเกิน คุมอารมณ์ไม่อยู่อาจจะใช่ แต่ถึงอย่างไรก็ไม่น่าพลั้งปากพูดสิ่งที่ไม่ได้คิดหรอก ทาซึยะ เธอจำคำที่พระเอเซ็นพลั้งปากพูดได้ไหม” ทำไมจะจำไม่ได้เล่า ร่างผมสั่นด้วยความกลัวพลางพยักหน้าไม่ปริปาก
“เธอพอจะนึกอะไรออกจากคำพูดพวกนั้นได้ไหม พระเอเซ็นต้องเข้าใจผิดแน่ อาจมีบางอย่างทำให้เข้าใจผิดก็ได้นะ...” แต่ผมนึกไม่ออกเลย จนป่านนี้แล้วผมยังคิดถึงสภาพอันโดดเดี่ยวของตัวเองในหมู่บ้านนี้ ความรู้สึกเดียวดายเข้ามาเกาะกุม ขณะนั้นเองชิมะก็เดินเข้ามา “เอ้อ คุณผู้ชายทาซึยะคะ...” มือชิมะจรดที่ธรณีประตู “คุณย่าท่านเรียนเชิญ...”
“เหรอ งั้นไปบอกทีว่าจะไปเดี๋ยวนี้แหละ...” ชิมะทำท่าห้ามพี่ฮารุซึ่งกำลังจะยืน
“ไม่ใช่ค่ะ ท่านว่าคุณผู้หญิงไม่ต้อง คุณผู้ชายทาซึยะเท่านั้นค่ะ...” ผมกับพี่ฮารุมองตากันอย่างงวยงงคาดไม่ถึง
ผมมาอยู่บ้านนี้จวนครบสัปดาห์แล้ว แต่จนบัดนี้ยังไม่เคยนั่งเผชิญหน้ากับคุณย่าทั้งสองเลยสักครั้ง เวลาที่ผมเผชิญหน้ากับคุณย่ามักมีพี่ฮารุหรือคนอื่นอยู่ด้วยเสมอ ช่างเป็นความบังเอิญเหลือเกินที่กลางดึกของคืนเหตุการณ์สยดสยอง คุณย่าอยากพบผมโดยไม่มีพี่ฮารุ ใจผมถึงกับเต้นไม่เป็นจังหวะด้วยความกังวล แต่ไม่มีเหตุผล(ยิงปลา)ที่ผมควรปฏิเสธ ผมจึงยืนขึ้นตามชิมะไป พี่ฮารุมองตามร่างผมด้วยสายตาห่วงใย...
ฝาแฝดคุณย่าอุเมะกับคุณย่าทาเคะอยู่ห้องในสุดของเรือนใหญ่ ห้องนั่งเล่นซึ่งเอาห้องขนาดแปดเสื่อและหกเสื่อเชื่อมต่อกันอยู่ติดกับทางเดินยาวสิบห้าห้องที่ต่อไปถึงเรือนรับรอง ท่านทั้งสองมักนอนเรียงกันในห้องแปดเสื่อนี้ ชิมะพาผมเข้าไปในห้องนั้น คุณย่าอุเมะกับคุณย่าทาเคะยังไม่ได้นอน กำลังนั่งจิบน้ำชากันอย่างเงียบ ๆ ผมยังคงไม่รู้ว่าใครเป็นคุณย่าอุเมะ ใครเป็นคุณย่าทาเคะเช่นเคย ทั้งสองมองหน้าผมแล้วแสยะปากที่เหมือนถุงใส่เหรียญยิ้มให้
“โอ้ ทาซึยะหรือ เหนื่อยแย่สินะ เอ้า มานั่งนี่สิ” “ชิมะไม่มีธุระแล้ว กลับออกไปพักผ่อนได้” คุณย่าอุเมะกับคุณย่าทาเคะเอ่ยขึ้นต่อกันตามลำดับ (ยิงปลา)ผมเข้าไปนั่งตรงที่คุณย่าหนึ่งในสองท่านชี้ ส่วนชิมะก้มหัวออกไปอย่างเงียบ ๆ
“คุณย่ามีธุระอะไรกับผมหรือครับ” ผมมองคุณย่าแฝดพิสดารเหมือนลิงนี้ไปมา พลางพูดขึ้น
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ทาซึยะ ไม่ต้องมีพิธีรีตองหรอก ที่นี่เป็นบ้านหลานนะ ทำตัวตามสบายขึ้นอีกหน่อยสิ จริงไหม ทาเคะ”
“ใช่ อุเมะพูดถูก ไม่ต้องกลัวหรอก ซายะก็ตายไปแล้ว หลานก็เหมือนเป็นเจ้าของบ้านี้ ถ้าไม่ทำใจให้กล้าหน่อยก็แย่สิ” คนเราพออายุขนาดนี้แล้ว ความรู้สึกทั้งหมดก็เหือดแห้งไป ต่อมความรู้สึกเหลือเพียงซากเช่นเดียวกันน้ำมันก๊าดหรือฟองน้ำไปเสียแล้ว ทั้งคุณย่าอุเมะกับคุณย่าทาเคะทำหน้าไม่รูไม่ชี้แสดงอารมณ์ราวกับไม่สะทกสะท้านต่อเหตุการณ์เศร้าสลด แต่นั่นกลับทำให้ผมนึกขยะแขยงมากกว่า ผมรู้สึกคันยุกยิกที่หลังเท้าขึ้นมา
“แล้วธุระที่ว่า...” ผมถามย้ำ “โอ้ ใช่ ๆ มันก็ไม่ใช่ธุระหรอก ย่าคิดว่าหลานคงเหนื่อยเลยอยากให้ดื่มชาสักถ้วย”
“ใช่ มีแต่เรื่องร้าย ๆ เข้ามาเรื่อย หลานต้องเหนื่อยแย่เลย มีชาหายากนะ ดื่มสักถ้วยสิ อุเมะ รินให้ทีสิ”
“จ้ะ ๆ” คุณย่าอุเมะใช้ผ้าไหมเช็ดถ้วยชา รินชาแก่สดให้หนึ่งถ้วย ผมได้แต่อึ้งมองหน้าคุณย่า(ยิงปลา)ทั้งสองไปมาสักครู่ด้วยความงงงวย
“เป็นอะไรไปหรือ ย่าอุเมะอุตส่าห์ชงให้นะ ต้องขอบใจรับไว้สิ” คุณย่าทาเคะเร่ง ผมรับถ้วยชามาจิบเพราะไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ แต่ผมกลับต้องสะดุ้งมองขวับไปหาคุณย่าทันที
อ่านเพิ่มเติมได้ที https://moneyslotxo.cc/