October 20, 2020

money6

ล่องไพร ภาค 2 ตอนที่ 28 ยิงปลา

ไมรา สมิท มองหน้าข้าพเจ้าอย่างงงงันนิ่งอยู่สักครู่ ครั้นแล้วก็ยิ้มพรายพูดด้วยเสียงซึ่งเต็มไปด้วยความตื่นเต้นยินดีว่า

“ไมกู้ดเนส! นี่คุณสากไม่ได้พูดอย่างพรานใหญ่และนักล่าสัตว์อย่างเดียว แต่พูดด้วยวิญญาณของนักสำรวจด้วย เอาเถอะ ฉันจะพยายามเล่นบทบาทนางพญาของฉันต่อไปอย่างดีที่สุดที่จะดีได้ แต่บอกฉันตามตรงได้ไหมคุณสากกับบาบูนไปพบอะไรมา นอกจากศพลูกหาบที่น่าสงสารคนนั้น?”

เรามองดูหน้าซึ่งกันและกันจากนัยน์ตาคู่นั้น ข้าพเจ้ารู้ดีว่าเป็นการเปล่าประโยชน์ที่จะปิดบังอะไรไว้จากหล่อน เพราะฉะนั้นจึงเล่าความจริงให้ฟังอย่างย่อ ๆ และขอร้องมิให้หล่อนแสดงกิริยาอันใดออกไปซึ่งจะทำให้ใคร ๆ ตลอดจนกระทั่งไลสงเองเฉลียวใจว่าเราระแวงเขา ไมรานิ่งฟังข้าพเจ้าอย่างสนใจ ใบหน้าที่กร้านแดดประเดี๋ยวซีดลงประเดี๋ยวแดงเรื่อขึ้นเมื่อข้าพเจ้าเล่าจบ หล่อนก็ถอนใจเอ่ยขึ้นว่า ยิงปลา

“ฉันสังเกตเห็นตาของไลสง อย่างที่บาบูนเห็นเหมือนกันตั้งแต่เมื่อคืนนั้นแล้ว... ตาที่เป็นประกายวาวเมื่อต้องแสงไฟอย่างนัยน์ตาเสือหรือนัยน์ตาแมว แต่ขอฉันถามอีกทีเถอะว่าเพียงเท่านั้นพอแล้วหรือที่เราจะเชื่อว่าไลสงเป็นเสือสมิงจริง?”

ข้าพเจ้า “ฉันไม่ได้ยืนยันว่ามันเป็นจริงหรือไม่จริง ฉันเพียงแต่เล่าเหตุการณ์ที่ผ่านพบมาให้แหม่มฟังเท่านั้น การพิสูจน์ยืนยันเป็นเรื่องของเวลาซึ่งเราจะต้องพยายามช่วยกันแสวงหาข้อเท็จจริงและระมัดระวังตัวต่อไป”

ข้าพเจ้าคิดว่า ไมรา สมิท คงจะนำความรู้ใหม่ที่หล่อนได้รับจากข้าพเจ้าไปเล่าสู่สามีของหล่อนฟังเป็นแน่เพราะตลอดการเดินทางต่อมา คร.สมิทพยายามที่จะไม่ให้ภรรยาของเขาอยู่ห่างหรือไลสงพ้นจากสายตาไปเลย ถึงกระนั้นไลสงก็ดูเหมือนจะไม่เฉลียวใจจนนิดเดียวว่าเขาตกเป็นเป้าแห่งความสงสัยของเรา ยิงปลา

ข้าพเจ้าอยากจะคิดว่าถ้าเขาฆ่ากะเหรี่ยงลูกหาบคนนั้นจริง, ชายหนุ่มชาวเขาคนนี้ก็ประสาทดีและแข็งแกร่งเป็น เหล็กพอใช้ เขามิได้แสดงความระวังตัวกลัวภัยหรือแสดงความวิตกห่วงใยใด ๆ ทั้งสิ้นว่าความลับจะแดงออกสีหน้าของเขายิ้มแย้มแจ่มใสนัยน์ตาที่เต็มไปด้วยประกายหัวเราะและบางคราวก็ตื่นเต้นขณะใดที่เห็นยอดดอยซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของเราโผล่พ้นจากกลุ่มเมฆปรากฏลิบ ๆ อยู่ข้างหน้า ทั้งไร้เดียงสาและบริสุทธิ์อย่างชาวป่าชาวดงทั่วไป จนกระทั่งข้าพเจ้าเองอดคิดไม่ได้ว่าความระแวงแคลงใจของเราเกิดจากอุปาทานและเป็นการโหดร้ายทารุณเหลือเกินที่จะไปปรักปรำความผิดให้แก่เขาเช่นนั้น

เราผ่านป่าสนบนสันเนินไปหลายป่าข้ามหุบผากว้างอันเยือกเย็นและชื้นแฉะไปด้วยละอองหมอกที่ปกคลุมอยู่ตลอดวันไปอีกหลายแห่ง จนกระทั่งตกบ่ายจึงเริ่มสังเกตเห็นพื้นดินที่ถูกดัดแปลงให้เป็นนาและไร่บ้างยังใหม่และบ้างก็ถูกทอดทิ้งให้รกร้างว่างเปล่าไว้ตามเชิงเขาและข้างลำธารขึ้นทุกทีอีกประมาณ 4 กิโลเมตร และ 1 ชั่วโมงต่อมาไลสงก็พาเราไปถึงหน้าผาแห่งหนึ่งซึ่งมีสะพานเชือกเก่า ๆ ทอดข้ามปากเหวกว้างและลึกไปสู่หน้าผาอันสูงชันตรงกันข้ามบรรดาลูกหาบหยุดชะงักทันทีรีรอและออกันอยู่ที่เชิงสะพานนั้นไลสงซึ่งล่วงหน้าไปถึงกลางสะพานแล้วจะกวักมือหรือส่งภาษาเสียงนกเสียงกาเรียกสักปานใดก็ได้แต่สั่นหน้า แล้วในที่สุดก็พากันนั่งลงเหมือนจะตกลงใจว่าหัวเด็ดตีนขาดก็ไม่ยอมก้าวต่อไป ข้าพเจ้าจึงจำเป็นต้องปราดเข้าไปที่ตาเกิ้นทันที

“พวกนั้นกลัวอะไรกัน ตาเกิ้น?” ตาเกิ้น “มองลงไปข้างล่างเถอะนายแล้วก็ดูสะพานนั่นเดี๋ยวก็บอกได้เองว่ามันกลัวอะไร? ทำไมถึงกลัว?”

ภายในพริบตา ข้าพเจ้าก็เข้าใจความหมายของแกระหว่างหน้าผา ทั้งนั้นสะพานเชือกซึ่งทำด้วยลูกระนาดไม้เบญจพรรณและผูกด้วยเถาวัลย์เหนียวผ่านไปเหนือลำธารเชี่ยวกราก สูงไม่ต่ำกว่า 50 ฟิต เสียงน้ำที่ดังสนั่นและสะพานยาวราว 100 เมตร ซึ่งโยนตัวอยู่กลางกระแสลมแรงพอที่จะทำให้ผู้ชายแม้ใจจะแข็งและประสาทดีเพียงใดก็ยากที่จะอดหวั่นไหวและเสียววาบไปตามไขสันหลังได้ ถึงกระนั้นข้าพเจ้าก็ต้องทำใจกล้าและปากแข็งบอกแกว่า

“ไลสงไปได้ เราก็ไปได้?” ตาเกิ้นกระซิบว่า ยิงปลา

“อ้ายนั่นมันคนเมื่อไร นายก็รู้คูมันเดินไม่มีรอยตีนคูมันข้ามสะพานเหมือนนกบินหรือลมพัดลูกระนาดไม่ยวบ โอ้ย, กลับเถอะนาย ตาเกิ้นคิดถึงยายเสียแล้วอย่าเดินทางต่อไปเลย”

ข้าพเจ้าจะบอกให้แกปลอบโยนพวกลูกหาบเหล่านั้นสักเพียงไรก็ไม่มีใครยอมขยับตัว จนกระทั่งอดหัวเสียไม่ได้ แต่ความหัวเสียไม่มีประโยชน์แก่ใครในเวลาเช่นนั้น ข้าพเจ้าจึงหันไปหา ไมรา สมิท และบอกหล่อนให้ร้องเรียกไลสงกลับมาก่อน

“ถามเขาด้วยว่าทางอื่นที่เสี่ยงต่อการพลัดตกลงไปคอหักตายข้างล่างน้อยกว่านี้สักหน่อยไม่มีหรือ?”

แต่ทันใดที่ไลสงวิ่งกลับมาส่งภาษาเสียงนกเสียงกากันอยู่สักครู่และไมราอธิบายให้ฟัง ข้าพเจ้าก็ท้อใจ

“ไลสงว่าข้ามสะพานเป็นทางลัดไปอีกไม่ทันค่ำก็ถึงหมู่บ้าน บนยอดดอยไปทางอื่นอย่างน้อยอีก 3 วัน 3 คืนจะถึงหรือไม่ถึงยังสงสัย”

ข้าพเจ้า “บอกเขาเถอะว่าพวกลูกหาบไม่ยอมไป ฉันเองเห็นสะพานนั่นแล้วก็เห็นใจ”

ไมรา “ไลสงว่าสะพานใช้กันมาทุกวันเกือบ 10 ปีไม่มีใครตก ไม่มีใครตาย ไลสงว่าตามเขาไปเถอะสะพานขาดก็รู้กันจะ ได้สร้างสะพานใหม่” ยิงปลา

หล่อนพูดยังไม่ทันขาดคำไลสงก็วิ่งข้ามสะพานเชือกนั้นไปจนถึงปลายสะพานที่หน้าผาฝั่งตรงกันข้ามแล้วก็วิ่งกลับมาอย่างง่ายดายพลางหัวเราะร่า ยกมือทั้งคู่ขึ้นท้าวสะเอวส่งเสียงนกเสียงกาของเขาต่อไป

อ่านเพิ่มเติมได้ที https://moneyslotxo.cc/