October 11, 2020

JK-201011-04

MONEY RICH 88

ชิซุมะกับสุเกะคิโย 2 (ยิงปลา)

"ฉัน...ฉัน..." ทามะยกสองมือปิดหน้า ยิ่งสะอื้นไห้หนักกว่าเดิม

"ฉันไม่เคยคิดสักครั้งว่าคิโยเป็นฆาตกรในคดีนี้ เพราะฉะนั้น... เพราะฉะนั้นที่คิโยพยายามจะฆ่าฉันคงเป็นเพราะเขาสงสัยในตัวฉันมากกว่า...พอคิดอย่างนี้ฉันก็เกลียดตัวเองและเสียใจ ฉันไม่เคยสนใจว่าใครจะคิดระแวงในตัวฉัน ฉันไม่เคยใส่ใจทั้งสิ้น ขอแค่อย่าให้คิโยระแวงฉันก็พอ ฉันไม่อยาก ไม่อยากเลยค่ะ ฉันเสียใจ..." ทามะไหล่สั่น สะอื้นไห้รุนแรงยิ่งขึ้น เคนตะหันกลับไปทางคิโย

"คุณคิโย ได้ยินแล้วใช่ไหมครับ ในขณะที่ปกป้องใครบางคนนั้น คุณกำลังทำลายหัวใจคุณทามะอยู่นะครับ คุณต้องคิดดี ๆแล้วล่ะ คุณทามะ อย่าร้องไห้เลยครับ คนฉลาดอย่างคุณจะไม่รู้เชียวหรือว่าที่คุณคิโยบุกเข้าไปเป็นแค่การเสแสร้ง คิดสิครับ คุณคิโยพกปืน ถ้าเขาคิดจะฆ่าคุณ แค่กระสุนนัดเดียวก็เรียบร้อยแล้ว ถ้าเขาฆ่าคุณแล้วหนีไปเลยก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่นี่เขาตั้งใจจะฆ่าตัวตาย คุณคิโยไม่ได้คิดฆ่าตัวตายเพราะจนมุมตำรวจนะครับ เขามีจดหมายลาตายอยู่ในกระเป๋าเสื้อแล้ว จดหมายนั่นจะต้องเขียนมาจากโตเกียวแน่ เพราะเขาคงไม่ไปหาซื้อกระดาษกับซองจดหมายหลังจากฆ่าคุณไม่สำเร็จ แล้ววิ่งหายไปในหิมะและโดนตำรวจไล่ล่า ใช่ครับ คุณคิโยคิดจะฆ่าตัวตายตั้งแต่ตอนอยู่โตเกียวแล้ว คนจะฆ่าตัวตายไม่กลัวเสียงปืนหรอกครับ เพราะฉะนั้นถ้าคุณคิโยตั้งใจจะฆ่าคุณละก็ เขายิงกระสุนนัดเดียวในคืนวันที่ 13 แล้วฆ่าตัวตายตามก็ได้นี่ แสดงว่าเขาบุกเข้าไปคืนนั้นเพียงเพื่อเล่นละครตบตาเข้าใจหรือยังครับ"

"เข้าใจแล้วค่ะ" ทามะตอบเบาๆ เธอหยุดร้องไห้แล้ว เธอมองเคนตะด้วยสายตาอ่อนโยนเปี่ยมด้วยความรู้สึกขอบคุณลึกซึ้ง

"คุณช่วยฉันออกมาจากขุมนรกแท้ๆเชียว ขอบคุณมากค่ะ..." เมื่อได้ยินถ้อยคำอ่อนโยนครั้งแรกจากปากทาเคนตะเขินแทบแย่ "เอ้อ มะ-มะ-ไม่เป็นไรครับ" เขาเสยผมยุ่งไปมา กลืนน้ำลายแล้วพูดต่อ

"เอาล่ะ...เรารู้กันแล้วว่าคุณคิโยมาจากโตเกียวคืนวันที่ 13 แกล้งบุกไปทำร้ายคุณทามะในห้อง(ยิงปลา) แต่นี่ไม่ได้แปลว่าเขาไม่เกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรม คิโยตัวปลอมในคืนวันที่ 12 นะครับ เขาอาจจะฆ่าคิโยตัวปลอมในคืนวันที่ 12 จับรถไฟขบวนสุดท้ายคืนนั้นหรือรถไฟขบวนเช้าตรู่วันรุ่งขึ้นไปโตเกียว แล้วกลับมาที่นี่อีกตอนสามทุ่มห้านาทีคืนวันที่ 13 ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้นะครับ แต่คิดดูแล้วมันไม่สมเหตุสมผลเสียเลย ถ้าจะทำอย่างนั้น สู้เขาบุกไปหาคุณทามะในคืนวันที่ 12 แล้วฆ่าตัวตายตามไม่ดีกว่าหรือ อีกอย่างปัญหาคือหัวของคุณ คิโย"

เคนตะยิ้ม มองหัวคิโยพลางพูด

"หัวของเขาดูแป๊บเดียวก็รู้ว่าเพิ่งตัดผมมา เพราะฉะนั้นถ้าเอารูปถ่ายคุณ คิโยออกไปถามตามร้านตัดผมทั่วโตเกียว ย่อมรู้ว่าเขาไปตัดผมร้านไหน ถึงจะไม่ได้ข้อมูลจากร้านตัดผม แต่ถ้าสืบต่อว่าหลังจากนั้นเขาไปไหน ก็จะรู้ได้ว่าคืนวันที่ 12 คุณคิโยอยู่ที่ไหน และหาพยานยืนยันเกี่ยวกับคดีฆ่าคิโยตัวปลอม คุณคิโยว่ายังไงครับ วิธีการนี้พอใช้ได้ไหม"

คิโยก้มหัว ไหล่สั่นเทา เหงื่อแตกซิกบนหน้าผาก ดูจากอาการเหล่านี้ แสดงว่าคำพูดของเคนตะตอนนี้คงจะจี้โดนใจดำ

สารวัตรทาจิขยับตัวไปข้างหน้าแล้วพูด

"ถ้าอย่างนั้น หมายความว่าคุณคิโยกลับมาที่นี่ในคืนวันที่ 13 ก็เพื่อจะสวมบทฆาตกรปกป้องใครบางคนใช่ไหมครับ"

"ครับ ใช่ คุณคิโยไม่เคยนึกฝันว่าคิโยตัวปลอมจะถูกฆ่าตาย เพราะฉะนั้นพอรู้ข่าวจากหนังสือพิมพ์ฉบับบ่ายวันที่ 13 เขาจึงตกใจมาก(ยิงปลา) หนำซ้ำคราวคดีทาเคกับโทโมเขาใช้วิธีลวงให้เข้าใจว่าฆาตกรมาจากข้างนอกหรืออยู่ข้างนอก แต่มาคราวนี้ไม่ใช่ เพราะฉะนั้นถ้าปล่อยไว้ไม่ทำอะไรเลย ฆาตกรตัวจริงก็จะถูกเผยโฉม คุณคิโยจึงเตรียมใจจะฆ่าตัวตายเพื่อปกป้องฆาตกรนั่นเอง"

"ใครครับ ใครเป็นฆาตกรครับ..." เสียงของสารวัตรทาจิบานาฟังคล้ายมีก้างปลาติดคอ ทว่าเคนตะตอบเสียงเรียบเฉย

"ถึงตรงนี้ คิดว่าไม่จำเป็นต้องบอกก็ได้...คุณมาโกะที่นั่งอยู่ตรงนี้ไงครับ" พริบตานั้นความเงียบงันน่าอึดอัดแผ่ปกคลุมไปทั่วห้อง ไม่มีใครแสดงอาการตกใจ ทุกคนรู้อยู่แล้วตั้งแต่ฟังเคนตะเล่า ดังนั้นเมื่อเคนตะเอ่ยชื่อฆาตกร สายตาทุกคนจึงพุ่งไปยังมาโกะด้วยความรังเกียจและอาฆาตแค้น ทว่าไม่มีใครสักคนที่แสดงอาการตกใจ แม้จะถูกมองด้วยสายตาอาฆาตพยาบาท มาโกะยังคงสงบนิ่ง อัดยาเส้นอย่างเงียบๆ ปากเปื้อนรอยยิ้มเยาะหยัน เคนตะขยับตัวไปข้างหน้า

"คุณนายมาโกะครับ คุณพอจะเล่าให้ฟังได้ใช่ไหมครับ ไม่สิ คุณต้องเล่าแน่ สิ่งที่คุณทำทั้งหมดก็เพื่อคุณคิโย แต่คุณคิโย กลับมารับบทฆาตกรแบบนี้ ความพยายามทั้งหมดของคุณก็สูญเปล่าสินะครับ" (ยิงปลา)

ทว่ามาโกะไม่ได้ฟังเคนตะพูดและไม่ได้หันไปมองด้วยซ้ำ เธอจ้องหน้าลูกตัวเองด้วยแววตารักใคร่ราวกับจะกลืนกิน

"คิโย ยินดีต้อนรับกลับบ้านจ้ะ ถ้าแม่รู้ว่าลูกกลับมาปลอดภัย แม่ก็ไม่ทำเรื่องบ้าๆนั่นหรอก และไม่จำเป็นต้องทำด้วยอย่างไรเสีย หลานทามะต้องเลือกลูกแน่นอนอยู่แล้ว"

คำพูดและน้ำเสียงของมาโกะเปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยนชนิดไม่น่าเชื่อว่านั่นเป็นเสียงมาโกะ ทามะได้ยินถึงกับแก้มแดงระเรื่อ ส่วนคิโยนั่งก้มหน้าไหล่สั่นเทา