JK-201013-03
MONEY RICH 88
ความบังเอิญอันน่ากลัว 1 (slot)
คิโยสูดหายใจปนสะอื้น "เชิญทุกคนด่าว่าผมได้ตามสบาย ผมยอมทำตามคำสั่งเขาราวกับคนเมาเหล้า คุณชิซุมะลงบันไดไปหยิบดาบมาจากไหนไม่รู้ ผมตกใจถามว่าเอามาทำอะไร เขาบอกว่าเอามาช่วยแม่ผม ยิ่งฆาตกรรมโหดร้ายเท่าไหร่ คนจะไม่สงสัยฆาตกรว่าเป็นผู้หญิง..." หลังจากนั้นคิโยทนพูดต่อไม่ไหว เคนตะจึงไม่เร่งให้เขาพูดต่อ โคคินคงนึกถึงการกระทำของลูกตัวเอง ไหล่เล็กบางของเธอถึงกับสั่นเทา คิโยถอนหายใจลึก "ผมมานึกดูทีหลัง เรื่องนี้คุณชิซุมะไม่ได้แค่ช่วยแม่ผมเท่านั้น เขาพยายามทำให้คำสาปแช่งของแม่ตัวเองเป็นจริงด้วย เราตัดคอน้องทาเคแล้วสลับเสื้อผ้ากัน ผมสวมหน้ากากยางอันน่าขยะแขยง คุณชิซุมะถามว่าผมเดินทางมาจากไหน ผมบอกเรื่องบ้านพักคาชิวายะ และบอกว่าผมซ่อนหน้าตัวเองไม่ให้ใครเห็นเพราะกลัวคนจะเอาไปลือ เขาตบมือหัวเราะชอบใจ พูดว่าเอาล่ะ เป็นอันว่าพรุ่งนี้ทั้งวันคุณปลอมเป็นผมอยู่ที่นี่ ส่วนผมจะไปคาชิวายา ปลอมเป็นคุณเอง..." เคนตะหันไปทางสารวัตรทาจิ
"ทีนี้สารวัตรเข้าใจหรือยังครับ ที่คุณคิโยปิดหน้าตัวเองมีประโยชน์ตรงนี้เอง ตั้งแต่วันที่ 15-16 พฤศจิกายน มีคนสองคนสลับกันสวมบทบาทในบ้านนี้กับบ้านพักคาชิวายะ ในเมื่อเห็นแค่ลูกตา จึงไม่ต้องห่วงเรื่องใบหน้าพังยับเยินน่าสยดสยองของคุณชิซุมะ" แปลกเหลือเกิน ทั้งหมดเป็นเรื่องบังเอิญทั้งสิ้น เรื่องบังเอิญที่มาเกิดขึ้นพร้อมกัน กับไหวพริบที่สานความบังเอิญให้ต่อเป็นเรื่องเดียวได้ชนิดน่าอัศจรรย์ ชิซุมะมีไหวพริบที่จะแปรเปลี่ยนอำพรางฆาตกรรมลึกลับเหล่านั้น
"คุณชิซุมะเปลี่ยนชุด ใช้ผ้าพันคอปิดหน้าตัวเองแล้วลงไปข้างล่าง เอาเรือออกจากโรงเก็บเรือ ส่วนผมอยู่บนหอชมวิว หย่อนศพไร้หัวของน้องทาเคกับดาบญี่ลงในเรือ คุณชิซุมะพายออกทะเลทันที จากนั้นผมทำตามที่คุณชิซุมะสั่ง เอาคอน้องทาเคไปตั้งบนคอตุ๊กตาดอกเบญจมาศ แล้วแอบกลับไปยังห้องที่คุณชิซุมะบอกไว้"
ใบหน้าคิโยมีร่องรอยเหนื่อยล้า ตาเหม่อลอยไร้แวว ร่างท่อนบนสั่น น้ำเสียงอ่อนแรงลงมาก เคนตะจึงเอ่ยขึ้นแทน
"ทั้งหมดเป็นเหตุการณ์คืนวันที่ 15 ใช่ไหมครับ วันถัดมาวันที่ 16 มีการพิสูจน์รอยนิ้วมือ ผมถือว่าเรื่องนี้เป็นจุดบอดใหญ่ทีเดียว เพราะไม่มีอะไรพิสูจน์ตัวคนได้ดีเท่ากับรอยนิ้วมือหรือรอยพิมพ์มืออีกแล้ว ผมนึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าพวกคุณจะกล้าตบตาด้วยวิธีบ้าๆแบบนี้ ผมเชื่อสนิทว่าคิโยหน้าตาน่าเกลียดคนนั้นเป็นคิโยตัวจริง เรื่องนี้เลยกลายเป็นอุปสรรคใหญ่ขวางการสืบคดีของผม คุณ ทามะครับ คุณรู้เรื่องนี้มาก่อนสินะ" ทามะมองหน้าเคนตะด้วยความตกใจ (slot)
"ตอนผลพิสูจน์เปรียบเทียบรอยพิมพ์มือออกมาว่าคิโยที่สวมหน้ากากเป็นคุณคิโยตัวจริง คุณทำท่าจะพูดอะไรบางอย่างถึงสองครั้งแต่ก็ไม่พูดตอนนั้น คุณตั้งใจจะพูดอะไรครับ"
"เอ้อ ตอนนั้น..." ทามะหน้าซีดเล็กน้อย "ฉัน...รู้ค่ะ ไม่ใช่สิ ไม่เชิงรู้ ฉันรู้สึกได้ว่าคนสวมหน้ากากน่าขยะแขยงปิดใบหน้าน่าเกลียดไม่ใช่พี่คิโย... เป็นสัญชาตญาณของผู้หญิงกระมังคะ"
"หรือว่าสัญชาตญาณของคนมีความรัก..." เคนตะแทรกขึ้น
"ทามะหน้าแดงแต่รีบปรับสีหน้า "อาจจะใช่ค่ะ ไม่สิ คิดว่าต้องใช่แน่ ๆ ฉันเชื่อมั่นว่าเขาต้องไม่ใช่พี่คิโย แต่ก็ตกใจว่ารอยพิมพ์มือเหมือนกัน จึงนึกสงสัยขึ้นมาวูบหนึ่งว่าเขาจะใช่คนหน้าพังยับเยินคนนั้นหรือเปล่า ก็เลย..."
"ฉันอยากจะพูดว่า ช่วยดึงหน้ากาก...ดึงหน้ากากเปิดหน้าให้ดูหน่อยค่ะ..." เคนตะร้องครางเสียงแหลม
"ถ้าตอนนั้นคุณพูดออกมา...อย่างน้อยคดีต่อจากนั้นคงจะไม่เกิด..." "ขอโทษค่ะ" ทามะหน้าถอดสีก้มหน้า เคนตะรีบพูด
"เปล่าครับ เปล่า ผมไม่ได้ตำหนิคุณทามะ ผมตำหนิความโง่ของตัวเองต่างหากครับ คืนนั้นคุณคิโยก็เปลี่ยนตัวกับคุณชิซุมะอีกสินะครับ" คิโยพยักหน้าเนือยๆโดยไม่ตอบ
"คุณไปเจอคุณชิซุมะ(slot)ใต้หอชมวิว รีบเปลี่ยนเสื้อผ้ากัน ต่อยให้หมัดหนึ่งตามที่คุณชิซุมะขอ แล้วคุณก็หนีไป ตอนนั้นคุณชิซุมะจงใจถอดหน้ากากออกเพื่อให้ทุกคนเห็นหน้าอัปลักษณ์ของตัวเอง จะได้หมดข้อสงสัยว่าเขายังเป็นผู้ชายหน้ายับเยินอย่างที่เห็น ไม่ได้เปลี่ยนตัวกับใคร" คิโยพยักหน้าอีก ทามะเอ่ยแทรกขึ้น "คืนนั้นคนแอบเข้ามาในห้องฉันเป็นใครคะ"
"คุณชิซุมะครับ คุณชิซุมะกลับมาบ้านนี้ตามนัดแต่มาเร็วไป ทุกคนยังอยู่ห้องนี้ทำพิธีเฝ้าศพคุณทาเค คุณชิซุมะเลยแอบเข้าห้องคุณทามะ" "เพื่ออะไรคะ...!"
"คุณชิซุมะตายไปแล้ว เรื่องนั่นคงต้องเดาแล้วล่ะครับ ผมเดาว่าคุณชิซุมะคงต้องการมาเอานาฬิกา...นาฬิกาที่มีรอยนิ้วมือไงครับ" ทามะปิดปาก ในใจเธอคงเริ่มจะเห็นด้วย
"คุณชิซุมะคิดไม่ถึงว่ามีรอยพิมพ์มือของคุณคิโยอยู่ที่ศาลเจ้านามิ พอเกิดเรื่องให้คุณคิโยพิมพ์มือพิสูจน์ในคืนวันที่ 15 เขาถึงรู้ทันอุบายของคุณ คิดว่าคุณอาจจะเอานาฬิกามาให้ซ่อมเพราะต้องการรอยนิ้วมือเขา...คุณชิซุมะเลยให้คุณคิโยพิมพ์มือแทน คงคิดว่าถ้าพิมพ์ไปแล้วครั้งหนึ่งคงจะไม่ต้องพิมพ์ซ้ำอีก แต่ถ้าคุณเอานาฬิกาไปเทียบกับรอยพิมพ์มือของคุณคิโยจากศาลเจ้านามิ ความก็จะแตก คุณชิซุมะจึงไปหานาฬิกา นี่แสดงว่าคุณชิซุมะไม่อยู่บ้านนี้ในวันที่ 16 เพราะถ้าอยู่เขาย่อมรู้เรื่องที่คุณสารภาพตอนเช้าวันที่ 16 ว่าคุณมอบนาฬิกาให้คุณทาเคไปในคืนนั้น และนาฬิกานั้นหายไปไหนไม่รู้ว่าแต่นาฬิกานั่น..." "นาฬิกาเรือนนั้นอยู่นี่" มาโกะพูดเสียงเย็นชา เธอเปิดลิ้นชักเล็กใส่ที่เขี่ยบุหรี่(slot) หยิบนาฬิกาพกตัวเรือนทำด้วยทองคำออกมาจากกองยาเส้น เลื่อนไปทางเคนตะ นาฬิกาลื่นไถลหมุนติ้วบนเสื่อตาตามิ เห็นตัวเรือนเป็นสีทองเด่นชัด ทุกคนมองดูมันด้วยความขนลุก นาฬิกาเรือนนั้นเป็นหลักฐานสำคัญที่จะพิสูจน์ตัวฆาตกร แต่คนมีนาฬิกาเรือนนี้อยู่ในมือกลับเป็นฆาตกรที่ฆ่าทาเคนั่นเอง