JK-201015-03
MONEY RICH 88
บทสุดท้าย 1 (slot)
มาโกะเล่าจบแล้ว ปริศนาทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ถูกคลี่คลายไปจนหมดสิ้น แต่ทุกคนกลับไม่ได้เบาใจขึ้นเลยสักนิด ตรงกันข้าม พวกเขารู้สึกว่าท้องหนักอึ้งราวกับถ่วงด้วยตะกั่ว ด้วยความจริงที่ได้รับรู้ช่างทั้งมืดมนและน่าเศร้าสลดใจ ความหนาวเย็นช่วงหัวค่ำแผ่ไปทั่วห้องซึ่งเงียบสงัด ท้องฟ้ากลับมาอึมครึมอีกครั้ง
"คิโย" ทันใดนั้นมาโกะส่งเสียงขึ้น เสียงแหลมสูงคล้ายนกปีศาจกู่ร้องกลางหุบเขา คิโยสะดุ้งเงยหน้าขึ้น
"ทำไมกลับมาแล้วลูกต้องใช้ชื่อปลอมด้วย ลูกแอบไปทำอะไรไม่ดีไว้หรือ"
"คุณแม่!" คิโยตะเบ็งเสียง หันหน้ามองคนในห้องด้วยใบหน้าโกรธเกรี้ยว
"คุณแม่ครับ ผมไม่ได้ทำอะไรไม่ดีนะครับ ถ้าผมรู้ว่าจิตใจคนในบ้านเมืองเราเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดนี้ ผมก็จะกลับมาโดยไม่ใช่ชื่อคนอื่น แต่ผมไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ ผมคิดแต่ว่าคนญี่ปุ่นยังเป็นคนญี่ปุ่นสมัยผมไปรบ โบกธงชาติรูปดวงอาทิตย์ไปส่งทหารเพื่อให้ฮึกเหิมและชนะกลับมา ผมทำผิดใหญ่หลวงในสนามรบ ทหารทั้งหน่วยต้องตายเพราะคำสั่งผิดพลาดของผม เหลือแค่ผมกับลูกน้องอีกคนเร่ร่อนกันอยู่ในพม่า ตอนนั้นผมคิดถึงขนาดจะคว้านท้องเพื่อแสดงความรับผิดชอบ คิดหลายครั้ง แต่ผมยังอยากกลับไปเห็นประเทศตัวเองอีกครั้ง... ผมรู้สึกอย่างนั้น ไม่นานลูกน้องคนเดียวก็ตายไปอีก ผมเหลือตัวคนเดียวและโดนจับเป็นเชลยศึก ผมจึงใช้ชื่อคนอื่น เพราะอายว่าชื่อตระกูลฮานามิต้องเป็นเชลยศึก แต่... แต่... พอผมกลับมา..." คิโยเสียงสั่น สูดลมหายใจที่ร้อนผ่าว (slot) ที่คิโยใช้ชื่อคนอื่นกลับมามีเหตุผลแค่นี้เองหรือ จริงสินะ ถึงแม้กรณีเช่นนี้จะเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แต่คนญี่ปุ่นสมัยก่อนสงครามมีความภาคภูมิใจและความรับผิดชอบขนาดนั้นจริง ๆ การที่คิโยมีความรู้สึกละอายใจหลังจากแพ้สงครามแสดงถึงจิตใจอันบริสุทธ์ิของเขา ทว่าจิตใจบริสุทธิ์นี้ไม่สามารถป้องกันคดีเศร้าสลดเนื่องจากแรงพยาบาทอาฆาตอันฝังลึกนานปี...
"คิโย เป็นความจริงนะ ลูกใช้ชื่อคนอื่นเพราะเหตุผลเท่านี้จริงหรือ"
"จริงครับ คุณแม่ ผมมีเหตุผลแค่เรื่องนี้ ผมไม่ได้ทำเรื่องไม่ดีเลยครับ" คิโยตะเบ็งเสียง มาโกะยิ้ม
"ถ้าเช่นนั้นแม่ก็วางใจ สารวัตรคะคิโยจะต้องโทษไหมคะ"
"เรื่องนั้น...คงเลี่ยงไม่ได้" สารวัตรอึกอัก "ไม่ว่าจะมีเหตุผลอะไรก็ยังมีโทษสมรู้ร่วมคิด...สมรู้ร่วมคิดภายหลัง และพกปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตครับ..."
"โทษจะหนักมากไหมคะ" คงจะไม่ถึงขั้นประหารชีวิตหรอกนะคะ"
"ไม่หรอกครับ...คิดว่าน่าจะได้ลดหย่อนผ่อนโทษครับ..."
"หลานทามาโยะ" พอได้ยินเสียงเรียกของมาโกะ ทามะถึงกับสะดุ้งไหล่สั่น
"หลานจะรอคิโยจนกว่าเขาจะออกจากคุกใช่ไหม" ทามะหน้าซีดราวกับขี้ผึ้งแล้วแดงก่ำ ตามีน้ำหล่อเลี้ยงเป็นประกาย เธอตอบรับแข็งขันโดยไม่ลังเล น้ำเสียงมุ่งมั่น
"รอค่ะ จะสิบปียี่สิบปี... ถ้าพี่คิโยยังต้องการ..."
"น้องทามะ ขอโทษนะ" คิโยเอามือทั้งสองจับเข่าก้มหัวลง เสียงกุญแจมือดังขึ้น ตอนนั้นเองเคนตะกระซิบบางอย่างกับทนาย ทนายพอได้ฟังก็พยักหน้าใหญ่ เลื่อนห่อผ้าขนาดใหญ่จากด้านหลัง ทุกคนมุงดูห่อผ้าด้วยความสงสัย ทนายแก้ห่อผ้าออก ข้างในเป็นกล่องไม้สี่เหลี่ยมผืนผ้าประมาณสามสิบเซนติเมตรสามกล่อง ถือกล่องเหล่านั้นขึ้น เดินช้า ๆไปข้างหน้าทามะ วางไว้ตรงหน้าเธอด้วยอาการอ่อนน้อม ทามะทำตาโตสงสัย ปากสั่นคล้ายจะพูดอะไรบางอย่าง ทนายเปิดฝาออกทีละกล่อ(slot)ง และหยิบของข้างในออกมาวางบนฝา ทุกคนส่งเสียงร้องพึมพำเสียงฟังคล้ายทุ่งหญ้าโดนลมพัด มันคือมรดกประจำตระกูล สีทองสุกใส "คุณทามะครับ" ทนายเสียงสั่นด้วยความยินดี "ผมมอบให้คุณตามพินัยกรรมของคุณตาเชิญมอบให้กับคนที่คุณเลือกครับ" ทามะแก้มแดง หันมองคนรอบห้องอย่างลังเล สายตาเธอสบกับสายตาเคนตะแล้วชะงักค้าง เคนตะยิ้มพลางพยักหน้าเบาๆ ทามะส่งเสียงคล้ายผิวปากพลางสูดหายใจลึก เธอพูดด้วยเสียงขาดห้วง
"พี่คิโย ช่วยรับไว้ด้วยค่ะ...น้องเป็นคนไม่มีค่าใด..."
"น้องทามะ ขอบใจจ้ะ" คิโยเช็ดตาด้วยมือซึ่งรัดด้วยผ้าพันแผล ผู้สืบทอดกิจการรวมถึงมรดกมหาศาลของตระกูลได้ตัดสินใจเลือกแล้ว ทว่าชายที่เธอเลือกจะต้องไปรับกรรมในคุกมืดมนในอีกไม่กี่ปีต่อจากนี้ มาโกะมองด้วยความพอใจ ก่อนจะหยิบยาเส้นมาใส่กล้องยาเพิ่ม ถ้าตอนนั้นเคนตะมากกว่านี้ ย่อมจะรู้ว่ายาเส้นที่มาโกะหยิบครั้งหลังไม่ใช่ยาเส้นในกล่องที่เคยสูบ เธอหยิบมาจากลิ้นชักที่เขี่ยบุหรี่ หรือลิ้นชักที่เมื่อกี้หยิบนาฬิกาออกมานั่นเอง
"หลานทามะ" มาโกะอัดควันเข้าปอดพลางพูด น้ามีเรื่องขอร้องหลานเรื่องหนึ่ง" มาโกะหยิบยาเส้นใส่ลงในกล้องยาอีก
"ไม่มีอะไรหรอก เรื่องของโยโกะน่ะ" ทาโกะกับเมโกะพอได้ยินชื่อโยโกะก็ตกใจหันมองหน้ามาโกะ(slot) แต่มาโกะยังคงสูบยาด้วยอาการสงบ และเปลี่ยนยาเส้นอีกหลายครั้งพลางพูด "อีกไม่นานโยโกะจะคลอดลูกแล้ว โทโมเป็นพ่อของเด็กในท้อง เด็กคนนี้ถือว่าเป็นหลานของน้องทาโกะและน้องเมโกะ หลานทามะเข้าใจที่น้าพูดใช่ไหม"
"ค่ะ เข้าใจค่ะ แล้ว..."
"เรื่องที่จะขอร้องไม่มีอะไรหรอก ถ้าเด็กคนนี้โตขึ้น ยกมรดกตระกูลให้เขาครึ่งหนึ่ง" ทาโกะกับเมโกะมองหน้ากันด้วยความตกใจ ทามะตอบกลับเสียงหนักแน่น "ค่ะ คุณน้า เอ้อ คุณแม่ เข้าใจแล้วค่ะ หนูจะทำตามคำขอของคุณแม่แน่นอน"
"งั้นหรือ ขอบใจนะ คิโย ลูกเองต้องจำไว้ด้วย คุณทนาย คุณเป็นพยานนะคะ และถ้าเด็กคนนี้เป็นผู้ชายที่มีความสามารถ จะต้องให้เขามีส่วนในกิจการของตระกูลด้วย อย่างน้อยถือเป็นการไถ่บาปที่ฉันทำไว้กับน้องทาโกะและน้องเมโกะ..."