JK-201026-04
MONEY RICH 88
ฉากกั้นภาพเหล้าสามรส 2 https://moneyslotxo.cc/
เมื่อครู่คุณย่าอุเมะหรือคุณย่าทาเคะพูดอะไรบางอย่างค้างอยู่ในใจผม คุณย่าท่านหนึ่งพูดไว้ว่า “เจ้าเกิดในห้องนี้ ในบ้านนี้ ยี่สิบหกปีแล้วสินะ ห้องนี้ยังเหมือนเดิม ทั้งประตูเลื่อน ฉากกั้น ม้วนภาพพู่กันแขวนและภาพพู่กันใส่กรอบ…”
ถ้าเช่นนั้นแม่ผู้น่าสงสารของผมคงมองดูฉากกั้น ประตูเลื่อน ม้วนภาพ พู่กันแขวนเหล่านี้ทุกวันนะสิ คิดแล้วผมก็นึกถึงแม่ขึ้นมาด้วยความปวดร้าว จนอดมองดูสิ่งของเหล่านั้นทีละอย่างไม่ได้ มีม้วนภาพพู่กันแขวนขนาดใหญ่เป็นรูปเจ้าแม่กวนอิมสวมชุดขาวนั่งอยู่บนหินแขวนตรงส่วนที่เป็นโคโนะมะ เมื่อคิดว่าแม่อยู่ในสภาพลำบากน่าสงสารเพียงไร ผมก็รู้สึกว่าตัวเองพอเข้าใจแล้วว่าแม่จะต้องอ้อนวอนเจ้าแม่กวนอิมนี้ด้วยจิตใจแรงกล้าขนาดไหน ว่าไปแล้วแม่ที่ผมรู้จักเป็นสาวกเจ้าแม่กวนอิม มักกราบไหว้พระพุทธรูปเจ้าแม่กวนอิมเล็ก ๆ ตรงโคโนะมะเสมอเพื่อปฏิบัติธรรมเช้าเย็น
ผมเห็นชั้นวางต่างระดับข้างยกพื้น มีหน้ากากละครโนห์สองอันแขวนอยู่บนกำแพงเป็นหน้ากากผู้หญิงกับหน้ากากสัตว์ป่าซึ่งมีใบหน้าดุร้ายราวกับว่ามีปีศาจกับพระเจ้าอยู่ด้วยกันในห้องนี้และคงเป็นเพราะมีภาพพู่กันใส่กรอบเขียนเป็นอักษรสี่ตัวว่า ‘มือบาปใจบุญ’นั่นเอง นอกจากนี้ตรงประตูเลื่อนยังมีรูปทัศนียภาพลักษณะเหมือนภาพวาดแบบคันงะกับแบบยามาโดะมาประกอบกันทั้งหมดนั้นล้วนแล้วเป็นของโบราณล้ำค่าทั้งสิ้น ยังมีของอีกสิ่งที่ดึงดูดผมนั่นคือฉากกั้นแบบพับได้หกแผ่น ด้านหน้าเขียนเป็นภาพคนจีนโบราณสามคนยืนโอบล้อมแจกันขนาดใหญ่ ภาพวาดมีขนาดใกล้เคียงกับคนจริงผมเหม่อมองฉากกั้นนั้น พี่ฮารุนึกขึ้นได้จึงเอ่ยขึ้นว่า “ใช่ ๆ พักหลังมีเรื่องแปลก ๆ เกี่ยวกับฉากนั้นด้วย”
ในบรรดาพวกเราสามคนพี่ฮารุเป็นคนพูดน้อยสุดมาตลอด แต่จู่ ๆ เอ่ยขึ้นมา ผมจึงหันกลับไปมองหน้าเธอด้วยความคาดไม่ถึง “เอ๊ะ เรื่องแปลก เรื่องอะไรหรือ” มิโกะขยับตัวใกล้เข้ามา “คือว่าถ้าบอกไปคุณอาจหัวเราะเยาะก็ได้นะ คือ คนในฉากกั้นออกมาได้ด้วยนะ” มิโกะเผลอ(ยิงปลา)ตัวเบิ่งตาโพลงจ้องหน้าพี่ฮารุ ผมก็มองหน้าเธอสลับกับรูปในฉากกั้นไปมา
“รูปนี้หมายถึงอะไรหรือคะ มีประวัติความเป็นมาใช่ไหม” “ค่ะ แต่ฉันไม่ค่อยรู้หรอก...” พี่ฮารุแก้มแดง
“ดูเหมือนจะเรียกว่าฉากกั้นภาพเหล้าสามรส ฉันรู้มาว่าสามคนในภาพชื่อโทบะ กับโคโล กับพระซุอินเจ้าอาวาสวัดคินซัน อยู่มาวันหนึ่งโทบะชวนเพื่อนโคโลไปเยี่ยมเจ้าอาวาสซุอิน เจ้าอาวาสยินดีมากจึงนำเหล้าดอกท้อออกมาดื่มฉลอง พอได้ลองลิ้มรสเหล้าแล้วทั้งสามทำหน้าแปลกใจ โทบะคือขงจื้อ โคโลคือเต๋า ส่วนซุอินคือพุทธ ทั้งสามคนต่างแปลกใจที่เหล้าดอกท้อเดียวกันแต่ได้สามรสชาติ นั่นคือ ทั้งสามศาสนา ขงจื๊อ เต๋า พุทธ ต่างมีหลักคำสอนแตกต่างกัน แต่กลับมาอยู่เป็นหนึ่งเดียวกันได้...ฉันได้ฟังมาว่ามีความหมายแบบนี้”
“แหม ช่างสมกับเป็นความคิดของคนจีนโบราณจริง ๆ แต่คุณฮารุคะ ที่ว่าคนในรูปออกมาน่ะ หมายความว่าอย่างไรคะ”
มิโกะสนใจเรื่องนี้มากกว่าประวัติหรือความเชื่อเสียอีก ผมเองก็เช่นกัน “แหม เรื่องไม่เป็นเรื่องน่ะค่ะ...ฉันก็ไม่รู้ว่าเรื่องจริงหรือเปล่าแต่มีเรื่องแปลก ๆ เกิดขึ้นค่ะ” พี่ฮารุเล่าเรื่องอย่างกระตือรือร้นว่า “เรือนรับรองนี้ส่วนใหญ่ปิดไว้(ยิงปลา) แต่คงอับจึงต้องมาเปิดประมาณสามวันครั้ง กระทั่งสองเดือนก่อน ฉันเข้ามาปิดบานประตูกันฝนกับชิมะ ก็รู้สึกว่ามีอะไรแปลก ๆ คล้ายมีใครเข้ามาในห้องแต่เวลานั้นฉันไม่ได้เอะใจ อีกสองสามวันต่อมาฉันเข้ามาเปิดบานประตูกันฝนอีกก็รู้สึกแปลกจริง ๆ เหมือนมีใครเข้ามาในห้องแน่... เป็นต้นว่า ตำแหน่งของฉากกั้นเพี้ยนไปหน่อย ตู้เล็กชั้นล่างของชั้นวางต่างระดับปิดไม่สนิท...แต่ประตูกันฝนกลับไม่มีสิ่งผิดปกติเลยสักนิด ฉันนึกว่าคงอุปาทานไปเองแต่ยังติดใจอยู่ จึงตั้งใจแอบไปเปิดตู้เล็กชั้นล่างค้างไว้หน่อย จัดตำแหน่งฉากกั้นให้ชิดขอบเสื่อตาตามิไว้ให้เรียบร้อย โดยไม่บอกชิมะ...ฉันจัดเผื่อไว้ว่าถ้ามีใครเข้ามาแตะต้องโดนตู้เล็กชั้นล่างกับฉากกั้นจริงจะได้รู้เลย และวันถัดมาฉันแอบเข้ามาดู... ”
“มีอะไรผิดปกติไปหรือคะ ฉากกั้นกับตู้เล็กชั้นล่าง” “ไม่มีเลยค่ะ วันนั้นไม่มีอะไรเลย ฉันเลยสรุปว่าคงคิดไปเอง หลังจากนั้นอีกสองสามวันฉันมาดูอีก...” “มาดูอีก...เป็นอย่างไรบ้างคะ”
“ค่ะ...ขอบฉากกั้น(ยิงปลา)อยู่ห่างจากขอบเสื่อตาตามิ ตู้เล็กชั้นล่างปิดสนิท” “ตายจริง!” มิโกะกับผมมองหน้ากัน
“แล้วมีร่องรอยแตะต้องบานประตูกันฝนไหม...” “ไม่มีค่ะ ฉันตรวจดูทั้งสองสิ่งก่อนแล้วค่อยเปิดบานประตูกันฝน ฉันตรวจตราดูกลอนอย่างละเอียด และลองตรวจดูบานประตูกันฝนทีละบาน ๆ มันลงกลอนเรียบร้อยดี ไม่มีร่องรอยงัดแงะบานประตูกันฝนเลยค่ะ” ผมกับมิโกะมองหน้ากันอีก
“การจะเข้ามาในห้องนี้ได้ต้องเข้ามาจากในสวนเท่านั้นหรือครับ” “ค่ะ ทางอื่นก็มีทางเดินยาวสิบห้าห้องที่เธอเดินผ่านเข้ามาเมื่อครู่ แต่ว่าทางเดินยาวนั่นปิดประตู ใส่กุญแจไว้จากทางเรือนใหญ่ ลูกกุญแจมีสองดอก ดอกหนึ่งอยู่ที่พี่ อีกดอกคุณย่าเก็บไว้” “อาจเป็นใครสักคนในบ้าน...”
“ไม่ค่ะ ไม่น่าเป็นไปได้ อย่างที่เห็นว่าพี่ชายนอนซมอยู่ จะเดินยังไม่ได้เลย ส่วนคุณย่าท่านก็ไม่น่า...ชิมะก็ไม่น่ามีธุระอะไรที่นี่นะ”