money6
ล่องไพร ภาค 2 ตอนที่ 36 ยิงปลา
ไมรา “ฉันไปทุกแห่งและทำทุกอย่างที่นางพญาผิวขาวของท่านควรจะกระทำลงโทษคนทำชั่วให้หลาบจำ ช่วยเหลือคนดีให้ปลอดภัยฉันท่องเที่ยวไปในมณีปุระและนาคาอาณาจักรเพื่อดูแลให้นาคาทั้งหลายอยู่ร่วมกันด้วยสามัคคี ลั่นท่องเที่ยวไปในที่คนต่างชาติต่างผิวพยายามจะเอาชนะกันด้วยการประหัตประหารแล้วก็ทำให้เขาหันหน้าเข้าปรองดอง กันก่อนที่โลกนี้จะประสบความพินาศ บัดนี้ฉันคิดถึงลูกน้อยอีกคนหนึ่งซึ่งฉันไม่เห็นหน้ามาหลายร้อยปีแล้ว จึงได้กลับมาเยี่ยมและเพราะว่าฉันเป็นนางพญาของพวกท่าน ฉันจึงรู้ว่าเชียมิอยู่ที่นี่”
ลีกอ “จริงทีเดียว พระแม่เจ้ารู้เสมอว่าพวกเราอยู่ที่ไหน ไม่มีอะไรที่พระแม่เจ้าจะไม่รู้ ไม่มีอะไรที่พระแม่เจ้าจะทำไม่ได้ หลายสิบปีและหลายชั่วอายุคนมาแล้ว พวกเราชาวเซียมิได้ความเดือดร้อนอยู่ไม่เป็นหลักแหล่งถูกกลั่นแกล้งรังแกจากพวกชอบใช้กำลังให้เปลี่ยนภูมิลำเนาเรื่อยไป” ยิงปลา
ข้าพเจ้า “พวกเรารู้ว่าชาวเซียมิรักความสงบไม่เบียดเบียนใครแล้วก็ไม่ร่ำรวยอะไร เหตุไฉนจึงมีศัตรู?”
ลีกอ หันมามองข้าพเจ้านิ่งอึ้งอยู่นานจึงได้ถอนใจแล้วก็ยิ้มละไมขณะที่ตอบว่า
“นางพญาผิวขาว...พระแม่เจ้าของเรารู้ดีว่าเพราะอะไร? ไม่มีใคร ในโลกนี้จะรู้วิธีทำอำพันดีได้อย่างพวกเรานั้นแหละจึงทำให้ใครต่อใครพยายามจะเอาความลับไปจากเราให้ได้เมื่อไม่ได้โดยละม่อมก็ด้วยกำลัง”
“จำเป็นอะไรที่ท่านจะปิดบังความลับนั้นไว้?” ข้าพเจ้าถาม
“เพราะอำพันเป็นชีวิตของเรา” อีกอตอบ “ต้องการข้าวอำพัน ต้องการเกลืออำพัน แม้แต่เสื้อผ้าที่นุ่งห่มและทุกสิ่งทุกอย่างในตัวของเราก็เช่นเดียวกัน” ยิงปลา
ข้าพเจ้า “วิธีทำอำพันมิใช่ความลับของโลกเลย” ลีกอ “ถึงกระนั้นก็ไม่มีใครทำได้ดีและวิเศษอย่างเราดู...”
ทันใดนั้นเอง อีกอก็ดึงถุงเล็ก ๆ ออกมาจากอกเสื้อแก้เชือกผูกปากถุงออกแล้วเทวัตถุที่บรรจุอยู่ภายในลงบนเสื่อกกตรงหน้า นัยน์ตาทุกคู่เพ่งออกไปจับที่อำพันเหล่านั้น ขนาดของมันต่าง ๆ กัน เมื่อกระทบกับแสงไฟก็เป็นประกายวาววับราวกับเพชรน้ำดี อีกอเน้นเสียงอีกครั้ง
“ดู! ในชีวิตของท่านเคยเห็นอำพันอย่างนี้หรือไม่ มิใช่เกิดจากธรรมชาติ หากเกิดขึ้นด้วยน้ำมือของมนุษย์และไม่มีจำนวนจำกัดเพราะสิ่งที่จะใช้ในการแปรธาตุมีอยู่ทั่วไป”
ข้าพเจ้าสังเกตเห็นนัยน์ตาของ ดร.สมิท เป็นประกายด้วยความตื่นเต้น ข้าพเจ้าเห็นทุกคนเพ่งอยู่กับกองอำพันเหล่านั้นเหมือนถูกมนต์สะกดแต่ไมราพยายามบังคับสีหน้าและอากัปกิริยาของหล่อนได้อย่างน่าสรรเสริญขณะที่เอ่ยขึ้นว่า
“ตกลง ลีกอท่านก็ยังไม่ลืมวิธีทำอำพันอย่างที่พ่อของท่านรู้มาจากปู่ของท่านและปู่ของท่านรู้มาจากทวดของท่าน”
ลีกอ “พระแม่เจ้ารู้แล้วว่าอำพันเป็นชีวิตของพวกเราเชียมิคนใดลืมวิธีทำอำพันเซียมิคนนั้นลืมชีวิตของตัวเอง”
ไมรา “ดีละ, วันหนึ่งต่อไปฉันจะให้ลีกอพิสูจน์ให้พวกนี้เห็นว่าที่เราพูดมันเป็นความจริงทุกอย่างไม่ใช่คุยโวโอ้อวด และก็ไม่ใช่ความเท็จ”
ลีกอ “แต่พระแม่เจ้าเราไม่เคยให้คนต่างเผ่ารู้ความลับในเรื่องนี้เลย”
ไมรา “ไม่เป็นไร บริวารของฉันทุกคนเหมือนญาติของท่านเหมือนคนในเผ่าเดียวกัน นอกจากนั้นพวกนี้ไม่มีความต้องการทำอำพันแข่งกับพวกเซียมิเลย” ยิงปลา
ลีกอนิ่งอึ้งอยู่นาน ในที่สุดก็หันไปส่งภาษากับไลสงสักครู่จึงหันกลับมาและก้มศีรษะแสดงว่ายอมจำนน
“ความปรารถนาของพระแม่เจ้าเป็นสิ่งที่เราไม่อาจปฏิเสธได้ ลีกอกับลูกชายของเขาจะคอยรับคำสั่งต่อไป”
การสนทนาของเรายุติแค่นั้น ครั้นแล้วเราก็อำลากลับที่พักทันทีที่เราอยู่ด้วยกันตามลำพัง ดร.สมิทถึงกับเขย่งเก็งกอยเข้าไปสวมกอดภรรยาด้วยความปลาบปลื้มยินดีเสียงที่พูดก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
“ในที่สุด เราก็ได้แลเห็นวิธีทำอำพันเหล่านั้นมันเป็นความลับที่ถูกปิดบังจากโลกภายนอกมาเป็นเวลาหลายพันปี ที่นี่แหละโลกวิทยาศาสตร์จะตะลึงยิ่งเสียกว่าระเบิดปรมาณูหรือไฮโดรเย็น”
ไมรา “ตุ๊ย...จุ้ย! ปล่อยฉันทอมอย่าทำรุ่มร่ามไปหน่อยเลย พวกนาคาเข้ามาเห็นเธอกอดนางพญาผิวขาวของเขาไว้จะว่าอย่างไร?” ยิงปลา
ดร.สมิท ปล่อยมือจากสะเอวภรรยาอย่างเด็กว่าง่ายพลางหัวเราะแหะ
“วันเดอร์ฟูล! มหัศจรรย์แท้! ฉันไม่รู้เลย ไมราว่าเธอกะคุณสากน่ะเล่นละครเก่งอย่างนี้ บางทีฟัง ๆ ไปมันทำให้ฉันลืมตัวคิดว่าเธอเป็นนางพญานาคาจริง ๆ เสียอีก โอ, ไมเดียร์ มันทำให้ฉันรักเธอเป็นกอง พูดแล้วก็กระโผลกกระเผลกเข้าไปอีกแต่ไมรายกมือขึ้นยันหน้าอกไว้พลางหัวเราะ
“รักนะได้แต่ขอให้อยู่ในใจก่อนทอม อย่าเพิ่งแสดงอะไรออกมาตลอดเวลาที่เราอยู่ที่นี่”
ตลอดเวลาเหล่านั้น ตาเกิ้นและข้าพเจ้ามิได้เอาใจใส่กับสองสามีภรรยาหรือคนอื่นเลย นอกจากเสียงกลองที่แว่วอยู่เป็นระยะ ๆ มาแต่ไกลและเวลาที่ผ่านไปเป็นลำดับ พวกกะเหรี่ยงลูกหาบต่างหลับปุ๋ยทันทีที่มาถึงที่พักพ่อเฒ่าหัวหน้าบ้านเผโบมากำลังพึมพำอะไรอยู่กับลูกสาวของแก ร.อ.เรืองก็นอนก่ายหน้าผากคิดถึงอะไรอยู่ ยิ่งดึกก็ยิ่งรู้สึกอากาศเย็นขึ้นเป็นลำดับ แม้กระนั้นทั้งตาเกิ้นและข้าพเจ้าก็นอนไม่หลับ เมื่อคิดถึงหน้าที่และความรับผิดชอบของเรา
ประมาณเที่ยงคืนเศษ ข้าพเจ้าได้ยินเสียงสุนัขเห่ากระโชกขึ้นที่หน้าที่พักของเรา 2-3 ครั้งแล้วก็เงียบไป ตาเกิ้นเอื้อมมือไปดับไต้ที่ปักอยู่กลางลานแล้วก็คลานไปที่ช่องหน้าต่างแคบ ๆ ชะเง้อมองออกไปยังบริเวณภายนอกซึ่งสว่างสลัวด้วยแสงจันทร์แรม สักครู่จึงหันกลับมาที่ข้าพเจ้ากระซิบเบา ๆ ว่า
“เจ้าหนุ่มกับนางสาวนาคาคู่หนึ่งไปไหนมานะนาย บางทีคนนี้มันอาจจะไม่มาก็ได้”
อ่านเพิ่มเติมได้ที https://moneyslotxo.cc/