money4
ชาพิษครั้งที่สอง 2(slot)
คุณย่าอุเมะหัวเราะหึ ๆ “อ้าว ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นหรอก ทำตัวสบายกว่านี้สิ ถ้าหลานยังมีพิธีรีตองจะทำให้พวกย่าต้องพลอยเกร็งไปด้วยนะ คืนนี้ย่าอยากตอบแทนเจ้าที่คอยช่วยเหลือดูแล คุณย่าทาเคะบอกจะชงชาให้นะ”
ผมสะดุ้งเมื่อได้ยินคำว่าชาแล้วมองหน้าพวกท่านทั้งสอง แต่คุณย่าทั้งสองกลับทำหน้าเฉย
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า คนแก่หนังเหี่ยวเชิญอาจจะดูน่ารำคาญไปหน่อย แต่มันเป็นความรู้สึกจากใจนะ ช่วยรับคำเชิญด้วยแล้วกัน”
ขณะที่คุณย่าทาเคะเช็ดถูถ้วยชาเบา ๆ อยู่นั้น พลันเอ่ยถามราวกับคิดขึ้นได้ว่า “จริงสิ ทาซึยะ ทำไมฮารุถึงป่วยล่ะ”
“ไม่มีอะไรหรอก” คุณย่าอุเมะก็ขยับตัวมาข้างหน้าด้วย “เด็กคนนี้สุขภาพไม่แข็งแรงมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว มักเจ็บออด ๆ แอด ๆ ประจำ แต่อาจะเป็นเพราะจิตเข้มแข็งเลยไม่เคยนอนอย่างนี้มาหลายปีแล้ว ว่าแต่ทำไมจู่ ๆ ถึงได้จับไข้สูงได้นะ”
“นั่นไง คุณหมอชูเฮบอกว่าพักหลังอาจมีเรื่องที่เป็นห่วงหรือตกใจมากหรือมีเรื่องกังวล ย่าเองก็ไม่รู้หรอก ทาซึยะ หลานว่าอย่างไร รู้อะไรบ้างไหม”
“เอ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันครับ อาจจะคิดมากสั่งสมมาตั้งแต่งานศพของพี่ซายะแล้ว จึงล้มป่วยคราวนี้ล่ะมั้งครับ”
“อืม จะว่าไปก็อาจเป็นอย่างนั้นได้ แต่ไม่มีเรื่อง(slot)อื่นแน่นะ ทาเคะ”
“จริงสิ จะว่าไปแล้วยังเพ้อแปลก ๆ ด้วยนะ อุโมงค์เป็นอย่างนี้ ชุดเกราะเป็นอย่างนั้น และยังเรียก คุณพ่อ คุณพ่ออีก...ทาซึยะ นั่นมันหมายความว่าอะไรหรือ” คุณย่าทาเคะชะงักมือที่ถือไม้คนชา จ้องหน้าผมนิ่ง คุณย่าอุเมะก็หรี่ตาพลางจ้องหน้าผมอย่างค้นหา เหงื่อร้อนผุดขึ้นมาใต้วงแขน
คุณย่าอุเมะกับคุณย่าทาเคะคงเชิญผมมาเพื่อถามถึงความหายของอาการเพ้อของพี่ ไม่สิ ท่านทั้งสองรู้ความหมายของอาการเพ้อของพี่อยู่แล้วแต่แกล้งทำเป็นห่วง เพื่อดูว่าผมจะรู้เรื่องแค่ไหนกันแน่ “ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
ผมนิ่งเงียบคุณย่าอุเมะจึงทำเป็นหัวเราะ “ทาซึยะก็คือทาซึยะ ฮารุก็คือฮารุ ทาซึยะจะไปรู้อาการเพ้อของฮารุได้อย่างไรกันเล่า นี่ ทาเคะ เอาชาให้ทาซึยะสิ”
“อืม อืม ย่าไม่น่าถามแบบนั้นเลย...เอ้า ทาซึยะ ดื่มชาสักถ้วยนะ” ผมนิ่งมองท่านทั้งสองไปมา หญิงชราทั้งสองทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้มองผมกับถ้วยชา ความหวาดกลัวในใจอย่างยากจะบรรยายคืบคลานขึ้นมาจนกลายเป็นอาการสั่นระริก ผมนึกถึงเรื่องที่พี่เล่าให้ฟัง เมื่อยี่สิบหกปีก่อนฝาแฝดคุณย่าอุเมะกับคุณย่าทาเคะคงยื่นยาพิษให้คุณพ่อในอุโมงค์ด้วยใบหน้าไม่รู้ไม่ชี้เช่นนี้แน่ ผมอดคิดไม่ได้ว่าหญิงชราหนังเหี่ยวทั้งสองท่านนี้ช่างเหมือนปีศาจประหลาด (slot)ไร้มนุษยธรรม
“ทาซึยะ เป็นอะไรไปหรือ ย่าอุเมะอุตส่าห์ตั้งใจชงให้นะ รีบดื่มตอนยังอุ่นอยู่สิ”
ผมจนมุม มือสั่นเทายกถ้วยชาขึ้นมา ฟันกระทบขอบถ้วยดังกึกกัก ผมหลับตาลง ในใจภาวนาถึงพระเจ้าพลางดื่มชารวดเดียวจนหมด ชาขมรสชาติทิ่มแทงลิ้นเช่นเดียวกับคืนวันก่อน
“อ้า ดื่มแล้ว ดื่มแล้ว ทาซึยะ ขอบใจนะ เอาล่ะ...กลับไปนอนพักได้แล้ว” หญิงชราทั้งสองมองหน้ากันแสยะยิ้มจนผมเห็นปากของท่านราวกับฉีกไปถึงหู ผมโซเซยืนขึ้น
คุณย่าทั้งสองเชิญผมไปดื่มชาเป็นครั้งที่สองแล้ว ผมจึงไม่หวาดกลัวเท่ากับคราวก่อน ผมเข้าใจความรู้สึกของคุณย่าทั้งสองดี อาการเพ้อของพี่ฮารุคงทำให้พวกท่านเป็นห่วงความลับเรื่องอุโมงค์ใต้ดิน คุณย่าอุเมะกับคุณย่าทาเคะแก่ชรามาก อายุก็เลยแซยิดไปแล้ว ไม่น่าอ่อนหัดจนผมรู้ทันแบบนี้
ผมรู้ทันทีว่าท่านทั้งสองต้องลงไปทางใต้ดินในคืนนี้เพื่อสืบให้แน่ว่า... พี่ฮารุล่วงรู้ความลับอุโมงค์ใต้ดินไปแค่ไหนแล้ว ซึ่งถ้าผมยังตื่นอยู่คงไม่สะดวก จึงออกอุบายให้ผมดื่มชาถ้วยหนึ่งให้หลับ เอาล่ะ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ผมจะยอมหลับแล้วกัน ความไม่สบายใจและตื่นเต้นที่(slot)สะสมทำให้ผมอ่อนเพลียมาก ได้หลับสนิทสักงีบอาจเป็นผลดีต่อสุขภาพก็ได้ คุณย่าอุเมะกับคุณย่าทาเคะครับ เชิญไปสำรวจอุโมงค์ใต้ดินตามสบายเลยครับ
ผมกลับเรือนรับรอง ปิดไฟแล้วมุดเข้าไปในที่นอนที่ชิมะปูไว้ให้ แต่ความเครียดในใจทำให้ยานอนหลับไม่ออกฤทธิ์เสียที ผมไม่ถึงกับตั้งใจรอ แต่คอยเงี่ยหูฟังว่าคุณย่าอุเมะกับคุณย่าทาเคะจะมาหรือยัง ตาผมสว่างโพลง ไม่มีท่าทีว่ายานอนหลับจะออกฤทธิ์เลย
ผมพลิกตัวไปมาอยู่บนที่นอนกว่าหนึ่งชั่วโมง ถึงค่อยได้ยินเสียงฝีเท้าย่องมาจากทางเดินยาวสิบห้าห้องตามที่คิดไว้ คุณย่าทั้งสองถือเชิงเทียนเข้ามาในห้องผมอย่างเงียบ ๆ เช่นเคย ผมจึงต้องรีบแสร้งทำเป็นหลับ คุณย่าอุเมะกับคุณย่าทาเคะถือเชิงเทียนส่องหน้าผม
“ดูสิ ทาซึยะนอนหลับสนิทเลย ไม่ต้องเป็นห่วงอย่างที่ทาเคะบอกหรอก”
“จริงด้วยสิ ตอนดื่มชาเมื่อครู่ทำหน้าแปลก ๆ ฉันเลยเป็นห่วงนึกว่าจะรู้ตัวแล้วนะสิ...ถ้างั้น(slot)คงไม่เป็นไรแล้ว”
“ไม่เป็นไรหรอก พวกเรากลับมาก็คงยังไม่ตื่น”
“’งั้นระหว่างนี้เราไปกันเถอะอุเมะ”
อ่านเพิ่มเติมได้ที https://moneyslotxo.cc/