November 6, 2020

money6

ล่องไพร ภาค 2 ตอนที่ 44 ยิงปลา

อีกครู่หนึ่งต่อมา ข้าพเจ้าก็ขึ้นไปอยู่บนชะง่อนหินปากทางใหญ่ซึ่งเมื่อกลางวันไมรายืนประกาศให้พวกจิรีถอยไป และเมื่อไม่สำเร็จในที่สุดหัวหน้าก็ถูกหล่อนสังหารในที่เดียวกัน ขณะนั้นยังไม่ถึงเที่ยงคืนดีแต่อากาศในที่สูงเช่นนั้นก็เริ่มเย็นจัดจนรู้สึกว่าจะนั่งอยู่นานไม่ได้ ยิงปลา

ถึงกระนั้นความสงัดเงียบก็ปรากฏอยู่รอบกายเสียงหมาในที่เพรียกขึ้นมาจากข้างล่าง เสียงช้างที่ร้องมาจากดอยตรงกันข้ามและเสียงคำรามของเสือที่เชิงเขา ก็ทำให้ข้าพเจ้านิ่งฟังเพลินอยู่ได้โดยไม่รู้ว่าเวลาล่วงไปนานเพียงใด จนกระทั่งรู้สึกหน้าชาไปด้วยความหนาวและมือก็เย็นเฉียบจึงได้สติตั้งใจจะกลับลงมาก็พอดี

กลิ่นสาบซึ่งลอยตามลมมาอ่อน ๆ ก่อนและแรงกล้าขึ้นเป็นลำดับปะทะจมูกจนต้องผุดลุกขึ้นอย่างกะทันหันแล้วก็ใจหายเมื่อได้คิดว่าข้าพเจ้าไม่มีอาวุธติดกายเลยจนอย่างเดียวแม้แต่ไม้จิ้มฟัน กลิ่นนั้นเป็นกลิ่นสาบของเสือ!

ข้าพเจ้าชะโงกมองไปทางต้นลมในขั้นแรกไม่แลเห็นอะไร นอกจากทางขึ้นซึ่งสองฟากกระหนาบไปด้วยหินก้อนใหญ่ปกคลุมไปด้วยกอไผ่และหญ้าแห้งเป็นหย่อม ๆ ตามทางสายนั้นว่างเปล่ามีแต่เงาของโขดหินและดอกไม้ที่แสงเดือนฉาบไปทาบอยู่เท่านั้น กำลังคิดว่าอุปาทานอาจทำให้จมูกได้กลิ่นไปเองก็ได้ยินเสียงก้อนหินกลิ้งลงมาจากเนินตรงกันข้าม พร้อม ๆ กับเสียงนั้น ศีรษะอันใหญ่ต่อมาร่างซึ่งแม้ในแสงเดือนสลัวก็บอกได้ว่าลายเป็นแถบไปทั้งตัวก็โผล่ออกมาจากหลังกอสลัดไดช้า ๆ เกือบจะตรงหน้าข้าพเจ้าและห่างออกไปเกือบไม่ถึง 10 ก้าว!

คำทำนายของลีกอ ยิงปลา

ความคิดครั้งแรกทีเดียวแวบขึ้นมาในสัญชาตญาณของข้าพเจ้าก็ทำนองเดียวกับความคิดของเพื่อนมนุษย์เท้าอ่อนเดินดินทั้งหลายซึ่งเห็นเสือโคร่งกลางแสงเดือนหงายและในระยะเพียงแค่นั้น ข้าพเจ้าอยากจะถลันออกจากที่กำบัง หันหลังได้ก็เปิดแน่วไป ข้าพเจ้าอยากจะทำอะไรทุกสิ่งทุกอย่างที่จะให้อยู่ห่างไกลจากเสือตัวนั้นให้มากที่สุดที่จะมากได้ แต่ภายในพริบตาเดียวการอบรมตนมาแต่กำเนิดและเลือดป่าแล่นอยู่ในกายก็บังคับสติไว้ได้

ข้าพเจ้ารู้จากกระแสลมที่พัดมาต้องกายว่าในระยะนั้นข้าพเจ้าอยู่ในที่ปลอดภัยจนกว่าสายตาอันคมและหูที่ไวของเสือตัวนั้นจะแว่วที่อยู่ของข้าพเจ้า ด้วยเหตุนี้เองจึงพยายามหมอบนิ่งอยู่กับที่แลดูมันก้าวลงมาจนถึงปากทางใหญ่และเดินตรงไปยังหมู่บ้านที่เราพัก ครั้นแล้วก็ลงจากชะง่อนหินนั้นและสะกดรอยตามไป

ข้าพเจ้าบอกไม่ถูกว่าอะไรเป็นเหตุให้ข้าพเจ้ากระทำเช่นนั้น นอกจากสันนิษฐานด้วยเหตุผลว่าเสือตัวนี้อาจจะเป็นตัวที่ 3 ซึ่งรอดจากความตายไปในคืนแรกที่เรามาถึงเซียมิก็ได้ ข้าพเจ้าอยากรู้ว่ามันจะไปที่ไหน? ไปทำอะไร? และแก่ใคร? โดยมิได้นึกถึงตัวหรือกลัวอันตรายทั้ง ๆ ที่ปราศจากอาวุธในที่สุดเมื่อเข้าบริเวณบ้านเสือตัวนั้นก็หยุดนิ่งอยู่หน่อยหนึ่งหันศีรษะอันใหญ่มองไปรอบ ๆ ตัว แล้วก็แหงนหน้าขึ้นดูพระจันทร์ได้ยินเสียงคำรามเครืออยู่ในคอของมันสองสามครั้ง ต่อมาก็วกอ้อมไปหลังที่พักของลีกอหัวหน้าบ้านเชียมิกับไลสงลูกชายของแก

เท่านั้นเองที่ข้าพเจ้าจะอดใจอยู่ได้พร้อม ๆ กับร่างของเสือใหญ่ตัวนั้นลับหายไปในเงามืดหลังโรงเรือนลีกอ ข้าพเจ้าก็วิ่งตัดสนามตรงไปยังที่พักของเราเปิดประตูเข้าไปและคว้าปืนที่พิงไว้หัวนอน ขณะนั้นเองตาเกิ้นก็ตื่น

“ไปให้นาคาสาว ๆ ไล่จับตัวมาแต่ไหนกัน นาย?” แกถาม

ข้าพเจ้า “ถ้าใช่ละก้อ ฉันไม่วิ่งหนีให้เสียชื่อลูกผู้ชายหรอกตาเกิ้นที่พบขณะออกไปเดินเล่นข้างนอกเมื่อกี้น่ะ มันไม่ใช่นาคาสาว ๆ แต่เป็น เสือ...”

ตาเกิ้นถอนใจ “โธ่, นายละก้อจะทรมานให้ตาเกิ้นกลัวไปถึงไหนก็ไม่รู้”

ข้าพเจ้า “เสือจริง ๆ อาจจะเป็นอ้ายตัวที่ 3 คืนก่อนก็ได้ ฉันสะกดรอยตามมันมาจนเลี้ยวเข้าไปข้างหลังที่พักหัวหน้าบ้านจึงได้รีบมาเอาปืนนี่แหละ คอยฉันเดี๋ยวเถอะ” ยิงปลา

ตาเกิ้น “นายจะไปไหน?” ข้าพเจ้า “ก็ไปตามอ้ายเสือตัวนั้นน่ะซิ” ตาเกิ้น “แล้วจะทิ้งตาเกิ้นไว้คนเดียวได้อย่างไร”

ข้าพเจ้า “อ้าว ที่เมื่อกี้อยู่คนเดียวนอนหลับเป็นตายเดี๋ยวนี้เกิดอยู่ไม่ได้ใครต่อใครรออกเต็มห้อง”

ตาเกิ้น “เมื่อกี้ไม่รู้เรื่องเสือไม่เป็นไร ได้ยินเรื่องเสือแล้วอดกลัวไม่ได้ถึงจะอยู่กับใครก็ไม่เหมือนอยู่ใกล้ ๆ นาย”

ข้าพเจ้า “งั้นก็ไป” ชั่วประเดี๋ยวเดียวที่ข้าพเจ้าจากไปเงามืดหลังที่พักของลีกอและไลสงสว่างขึ้นด้วยแสงเดือนที่ส่องถึงแม้กระนั้นก็ไม่ปรากฏวี่แววของเสือตัวนั้นเลย ไม่มีแม้แต่รอยเท้าอยู่บนพื้นดินอันปกคลุมไปด้วยฝุ่น เราสำรวจรอบบริเวณนั้นอยู่หลายตลบก็ไม่ได้ร่องรอยอะไร จวน ๆ จะสิ้นความพยายามและถอยกลับมาหาความอบอุ่นใต้ผ้าห่มนอนต่อไป ก็พอดีได้กลิ่นสาบลอยตามลมมาจากเพิ่งเก็บข้าวโพดทางขวา ข้าพเจ้ากับตาเกิ้นหันขวับไปทันทีก็พอดีเห็นสิ่งหนึ่งเคลื่อนไหวอยู่ในแสงจันทร์

ลักษณะของมันคล้ายงูกำลังเลื้อยเพียงแต่ลายอันเห็นได้ชัดและอาการกวัดแกว่งไปมาช้า ๆ เท่านั้นบอกให้เรารู้ว่ามันไม่ใช่ ตาเกิ้นทำเป็นใจกล้าก้าวเข้าไปพิจารณาดูมันในระยะเกือบไม่ถึง 5 หลา ทันใดนั้นเองก็ผงะถอยหลังมาปะทะข้าพเจ้า พลางกอดไว้และกระซิบด้วยเสียงแผ่ว ยิงปลา

“แน่แล้ว นาย แน่แล้ว!” ข้าพเจ้า “แน่อะไรกัน ตาเกิ้น” ตาเกิ้น “อ้ายนั่นซีนาย...อ้ายนั่น หางของเสือ!”

เป็นการยากที่จะเชื่อว่าเป็นไปได้แต่มันก็เป็นความจริง เสือตัวนั้นคงจะหมอบนิ่งอยู่เบื้องหลังเพิงเก็บเสบียงนั้นตลอดเวลา ข้าพเจ้าคิดว่าฝาขัดแตะที่กั้นอยู่ระหว่างมันกับเรามากกว่าทางลมที่ทำให้ไม่แลเห็นกันเสียแต่แรกแต่ครั้งหนึ่งเมื่อเห็นแล้วก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรได้ เราเห็นแต่ความเคลื่อนไหวของหางมันโดยไม่รู้จุดสำคัญของตัวอยู่ตรงไหน เพราะฉะนั้นจึงได้แต่จับตาเพ่งอยู่คอยดูความเคลื่อนไหวของมันขั้นต่อไป ในที่สุดราวชั่วครู่ใหญ่ ๆ ต่อมาหางของมันก็พลอยลับฝาของเพิงหายไปด้วย ตาเกิ้นกระตุกแขนข้าพเจ้าทันทีกระซิบเสียงสั้นว่า

อ่านเพิ่มเติมได้ที https://moneyslotxo.cc/