money4
เทพเจ้าเก้าหลุมศพ 2(สล็อต)
“ใช่ ต้นโน้นคือต้นสนโออุเมะ ต้นนี้คือต้นสนโอทาเคะ เป็นต้นสนแฝด ใช่ ๆ คุณอุเมะกับคุณทาเคะที่บ้านตะวันออกเกิดมาเป็นฝาแฝดเลยมาขอชื่อต้นสนไปตั้ง” แม่ใหญ่ไบโคลดเสียงลง “เติบโตงอกงามด้วยกันมาตั้งกี่ร้อยกี่พันปีแล้ว ไม่นึกเลยจะมีต้นเดียวโดนฟ้าผ่าตายไปแบบนี้...สงสัยคงเป็นสัญญาณเตือนว่าจะเกิดเรื่องไม่ดี น่ากลัวเสียใจ” แม่ใหญ่ไบโคก็เป็นเช่นคนในหมู่บ้านทั่วไป ท่านไม่หลุดพ้นจากตำนานเก้าหลุมศพ ผมรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาทันที
ผมกลับบ้านมาพร้อมกับแม่ใหญ่ไบโคพอดีกับที่คนทางวัดมาถึง ส่วนแขกได้ทยอยกันเข้ามาแล้ว บ้านทาจิทุกรุ่นนับถือนิกายเซน มีวัดประจำตระกูลคือวัดเร็นโคในหมู่บ้านพี่ซายะตั้งแต่เด็กเคารพนับถือพระโจเอ เจ้าอาวาสวัดมาโร นิกายชิงงนที่หมู่บ้านข้าง ๆ งานศพและงานที่จัดตามหลังนี้จึงใช้วัดเร็นโคกับวัดมาโรทั้งสองวัด
วัดมาโรอยู่หมู่บ้านข้าง ๆ ถ้าดูจากลักษณะภูมิศาสตร์ วัดนี้ผูกพันกับหมู่บ้านเก้าหลุมศพมากว่าและมีผู้นับถืออยู่ทางนี้มากกว่าด้วย เพียงแต่เจ้าอาวาสโจเออายุแปดสิบแล้ว มักจะอาพาธ งานส่วนใหญ่จึงให้ศิษย์วัดชื่อเอเซ็น(สล็อต)ซึ่งบวชเข้าวัดตอนหลังสงครามมาแทน วัดเคโชที่เมืองบังจิเป็นวัดในสายของวัดมาโร เวลาที่วัดมาโรคนไม่พอ แม่ใหญ่ไบโคจะมาเป็นผู้ช่วยให้ งานพิธีต่าง ๆ ในเมืองใหญ่จะถูกย่นย่อขั้นตอนลง แต่สำหรับบ้านนอกยังทำอย่างนั้นไม่ได้ ถ้าในบ้านเกิดเรื่องไม่ว่าจะเป็นงานมงคลหรืองานอัปมงคล เจ้าของบ้านต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อจัดพิธีให้ยิ่งใหญ่ ยิ่งถ้าเป็นบ้านทาจิซึ่งเป็นคนมีฐานะแล้วแขกในเจ็ดวันแรกจะมากถึงหลายสิบคน
พิธีทางศาสนาเริ่มตั้งแต่ช่วงบ่ายสองโมง แต่มีพิธีกรรมทั้งของวัดสองวัดจากนิกานเซนและนิกายชิงงน จึงเสร็จเมื่อใกล้ห้าโมงและต่อมาเป็นการถวายสำหรับอาหารซึ่งเป็นขั้นตอนยุ่งยากมาก คนงานในบ้านพวกคนภูเขา คนเลี้ยงวัว คนเรือ และพวกชาวนาที่คบค้าไปมาหาสู่กันนั่งดื่มเหล้าอยู่บนพื้นใกล้ห้องครัวโดยไม่ถือชั้นวรรณะ ส่วนคนสำคัญในหมู่บ้าน เช่น พวกญาติ จะรวมกันในห้องเสื่อตาตามิขนาดสิบสองเสื่อสองห้องทะลุกัน เพื่อถวายสำรับภัตตาหารแด่พระสองรูปและเลี้ยงอาหารต้อนรับแขกคนอื่น
คุณย่าอุเมะกับคุณย่าทาเคะเป็นผู้กำหนดงานทุกขั้นตอน แต่คนที่ดูแลจริง ๆ คือพี่ฮารุ ผมจึงเป็นห่วงสุขภาพของเธอ
“พี่ครับ เป็นอะไรหรือเปล่า (สล็อต)หักโหมเกินไปประเดี๋ยวจะกระเทือนต่อสุขภาพได้ ไม่ดีหรอกครับ”
“ขอบใจจ้ะ แต่พี่ไม่เป็นไรหรอก ยังไหวอยู่...” สำรับภัตตาหารสำหรับพระทั้งสองและอาหารเลี้ยงรับรองประมาณยี่สิบที่เตรียมเสร็จแล้ววางเรียงรายอยู่ในห้องครัว พี่ฮารุใบหน้าซีด บวม ดวงตาไม่สดชื่น
“สีหน้าพี่แย่เชียว ที่เหลือให้ชิมะหรือคนอื่นช่วยทำเถอะ พี่กลับไปนอนพักในเรือนดีกว่า...” “ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก อดทนอีกนิดเอง...ทาซึยะ ได้เวลาไปบอกแขกให้นั่งประจำที่แล้วนะ” “ครับ ถ้างั้น...” ผมกำลังจะเดินออกไปพอดีโนริเข้ามาตาม “พี่ชายคะ...” โนริพูดด้วยเสียงเบาแทบไม่ได้ยิน แวบมองตาผมแล้วรีบก้มหน้าลง โนริทักผมเป็นครั้งแรก ผมเองตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งจะมีหญิงสาวเรียกว่าพี่ชายครั้งแรกเหมือนกัน ผมใจเต้นตึ้กตั้ก แต่พอมองดูท่าทางของโนริซึ่งอ่อนแอราวกับเป็นดอกไม้เบ่งบานในร่มเงา ผมพลันฝืนยิ้ม ถ้าเป็นหญิงสาววัยรุ่นมีเสน่ห์สมเป็นผู้หญิงล่ะก็... แต่วันนี้โนริแต่งหน้าบาง ๆ
“อ้อ น้องโนริมีธุระอะไรหรือ” “แม่ใหญ่วัดเคโชเรียนเชิญพี่ชายค่ะ”
“อ้อ ขอบใจนะ แม่ใหญ่อยู่ไหนล่ะ” โนริพาผมไปทางห้องที่อยู่ถัดเข้ามาจากประตูหน้าบ้าน แม่ใหญ่ไบโคกำลังเตรียมตัวจะกลับ “อ้าว จะกลับแล้วหรือครับ กำลังจะถวายสำรับอาหารพอดีเลยครับ”
“ไม่เป็นไร ถ้าอยู่กินด้วยจะค่ำเสียก่อน ฉันแก่แล้ว ขอตัวตรงนี้เลยแล้วกัน” “พี่ชายคะ” โนริกระซิบจากด้านหลัง
“สำหรับอาหารของแม่ใหญ่ไว้ให้เด็กส่งตามไปทีหลังก็ได้ค่ะ” สมกับที่เป็นผู้หญิง (สล็อต)ช่างใส่ใจเหลือเกิน
“อืม ก็ดีนะ แม่ใหญ่ครับ ถ้าอย่างนั้นผมจะส่งสำรับอาหารตามไปให้เดี๋ยวนี้เลยครับ...”
“ขอบใจมาก” แม่ใหญ่ไบโคก้มศีรษะเกรียนเบา ๆ ท่านรีบเหลียวมองไปรอบ ๆ แล้วขยับเข้ามากระซิบข้างผม
“โยมทาซึยะ มาหาฉันสักครั้งสิ ฉันนมีเรื่องจะคุยด้วย ฉันรู้เรื่องสำคัญมากเกี่ยวกับตัวโยมนะ” ผมอึ้งไป แม่ใหญ่ไบโคจึงเหลียวมองไปรอบ ๆ อีก “ได้ไหม มาให้ได้นะ มาคนเดียวนะ อย่าพาใครมา เมื่อครู่ฉันตั้งใจจะบอกตั้งแต่ตอนอยู่ที่เทพเจ้าเก้าหลุมศพแล้ว แต่เผอิญมีคุณนายน้อยบ้านตะวันตกอยู่ด้วย...อย่าลืมนะ เรื่องนี้มีฉันกับเจ้าอาวาสวัดมาโรรู้เท่านั้น...เอาล่ะ ไว้พรุ่งนี้ก็ได้...ฉันจะรอ” แม่ใหญ่ไบโครีบแยก(สล็อต)จากผม เธอจ้องหน้าผมอีกครั้งเหมือนจะให้สัญญาณบางอย่าง แล้วโค้งคำนับอย่างเจตนาเดินออกไปทางหน้าบ้าน
ผมอึ้งไป ยังไม่เข้าใจในทันทีว่าที่แม่ใหญ่ไบโคพูดหมายความว่าอะไร ผมตกตะลึงยืนค้างอยู่ตรงนั้น ครั้นพอตั้งสติได้ ผมก็ตามออกไปถึงประตูุหน้าบ้าน ตั้งใจจะลองถามความหมายของคำพูดเมื่อครู่ แต่ก็ไม่เห็นร่างแม่ใหญ่แล้ว
“พี่ชายคะ เมื่อครู่แม่ใหญ่ว่าอะไรหรือคะ” ผมมารู้สึกตัวตอนโนริยืนอยู่ข้างหลัง สายตาอันไร้เดียงสาเหมือนเด็กของเธอส่อแววสงสัย “อ้อ เปล่า...” ผมดึงผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋าเสื้อ เช็ดเหงื่อที่ซึมอยู่ตามหน้าผาก “พูดอะไรก็ไม่รู้”
อ่านเพิ่มเติมได้ที https://moneyslotxo.cc/